เด็กชายวัย 15 ปวดหัวรุนแรง นอนรักษาตัวใน รพ. 1 เดือนยังไม่ฟื้น หมอเตือนโรคนี้ คนหนุ่มสาวเป็นเยอะ
รายงานจากสื่อเวียดนาม นักเรียนชายอายุ 15 ปีถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินด้วยอาการปวดศีรษะรุนแรง จากนั้นไม่นานก็ตกอยู่ในอาการโคม่า โรงพยาบาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ป่วยมีภาวะเลือดออกในสมอง จึงทำการใส่ท่อช่วยหายใจ ติดเครื่องช่วยหายใจ และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบั๊กมาย
ที่ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง พบว่าผู้ป่วยมีรูม่านตาข้างขวาขยายใหญ่ ผลการสแกนแสดงให้เห็นว่ามีเลือดออกในสมองเนื่องจากหลอดเลือดสมองโป่งพองและแตก เกิดภาวะแทรกซ้อนของโพรงสมองขยายผิดปกติ ความผิดปกติของอุณหภูมิร่างกาย และมีไข้สูงตลอดเวลาที่ 39-40 องศาเซลเซียส ความผิดปกติของหลอดเลือดสมองอยู่ในตำแหน่งที่อันตรายอย่างมาก
แม้จะได้รับการดูแลอย่างเข้มข้นที่ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง แต่อาการของผู้ป่วยทรุดลงอย่างรวดเร็ว และมีการพยากรณ์โรคที่ร้ายแรง หลังจากการดูแลฉุกเฉินเป็นเวลา 2 วัน แพทย์ได้แจ้งว่าไม่สามารถช่วยชีวิตได้อีกต่อไป จึงส่งผู้ป่วยกลับบ้าน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีโรคหลอดเลือดสมองในคนหนุ่มสาว
ดร.Lê Tuấn Anh จากศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง (โรงพยาบาลบั๊กมาย) เปิดเผยกรณีที่สองเป็นหญิงสาวอายุ 19 ปี ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินในอาการโคม่าลึก ใช้เครื่องช่วยหายใจ และอัมพาตทั้ง 4 แขนขา ผลเอกซเรย์แสดงเลือดออกในสมองและสมองบวมกระจายเนื่องจากหลอดเลือดโป่งพองแตก
ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดนำก้อนเลือดและหลอดเลือดที่ผิดปกติออก แม้จะได้รับการรักษาอย่างเข้มข้น แต่ยังคงมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง หลังการรักษา 1 เดือน ผู้ป่วยยังคงหมดสติและอัมพาตด้านซ้ายทั้งหมด
ดร.Lê Tuấn Anh กล่าวว่า ความผิดปกติของหลอดเลือดสมองเป็นปัญหาพัฒนาการของระบบหลอดเลือดสมองที่อันตราย และมักเกิดในคนหนุ่มสาว โดยมักตรวจพบเมื่อหลอดเลือดโป่งพองและแตก มักตรวจเจอโดยบังเอิญ
อาการที่ควรสังเกตและการป้องกัน
หลอดเลือดสมองที่ยังไม่แตก อาจมีอาการไม่เฉพาะเจาะจง เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน ชาและอ่อนแรงที่แขนขา หรือชัก หากหลอดเลือดสมองแตก อาการอาจรุนแรงตั้งแต่ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อัมพาตครึ่งซีก สับสน จนถึงโคม่าหนัก หรือเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว โดยอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 10-15% และ 50% ของผู้รอดชีวิตยังคงมีภาวะแทรกซ้อน
แพทย์แนะนำให้ประชาชนเข้ารับการตรวจเมื่อมีอาการต่อไปนี้ : ปวดศีรษะ วิงเวียน ชา หรืออัมพาตครึ่งซีก รวมถึงชัก หากมีอาการรุนแรงอย่างหมดสติ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที