แม่ใจสลาย จู่ๆ ลูก 2 ขวบหายตัว เจออีกทีลอยอยู่ในคลอง แม่โดดลงไปช่วย ปั๊มหัวใจยื้อชีวิตไม่ได้ สงสัยปีนคอกกั้นเดินตามหมาไป เพราะเคยทำมาแล้ว
วันที่ 2 ก.ค.67 ศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเด็กเล็กพลัดตกคลองจมน้ำ โดยแม่ช่วยได้นำตัวขึ้นมาบนฝั่งอยู่ระหว่างปั๊มหัวใจฟื้นคืนชีพ เหตุเกิดในสวนผลไม้ ซอยถนนบ้านคลองขวางพัฒนา พื้นที่หมู่ 6 รอยต่อหมู่ 11 ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานทีมแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลมะขาม และกำลังอาสากู้ภัยฯ ใกล้เคียงร่วมเดินทางให้การช่วยเหลือ
เมื่อเดินทางมาถึง ทีมแพทย์ฉุกเฉินได้ตรวจสอบอาการเบื้องต้น พร้อมรีบทำซีพีอาร์ต่อทันที แต่เนื่องจากเด็กจมน้ำนานเกินไป ประกอบกับไม่มีสัญญาณชีพตอบสนอง จึงยืนยันว่าเด็กได้เสียชีวิตแล้ว ก่อนประสานตำรวจ สภ.มะขาม เดินทางมาร่วมตรวจสอบ
ขณะเดียวกันพ่อแม่เด็กทันทีที่ทราบว่าไม่สามารถยื้อชีวิตลูกสาวไว้ได้ ต่างพากันกอดศพร้องไห้โฮ เป็นที่เศร้าสลดกับเจ้าหน้าที่และญาติพี่น้องที่อยู่ในเหตุการณ์
ขณะที่ พ.ต.ท.วีรพล สิทธิพันธ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.มะขาม ภายหลังเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็ได้สอบปากคำ น.ส.วนิดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี แม่ของเด็กทราบว่า เด็กที่เสียชีวิตเป็นเด็กหญิง อายุ 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็ก ส่วนคนโตเป็นผู้ชายที่ป่วยเป็นโปลิโอ พิการขาลีบ และเคยได้รับการผ่าตัดรักษาอาการป่วยทางสมองมาแล้ว
น.ส.วนิดา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนทำกับข้าวอยู่ในครัวหลังบ้าน โดยปล่อยให้ลูกสาวกับพี่ชายนั่งเล่นกันอยู่หน้าบ้าน ซึ่งมีคอกกั้นไว้ ต่อมาพี่ชายได้เข้ามาบอกว่าน้องหายตัวไป จึงรีบออกตามหารอบบ้านแต่ไม่พบ จึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามให้มาช่วยออกตามหาอีกแรง
จนมาพบร่างลูกลอยอยู่ในคลองท้ายสวน ตนก็รีบกระโดดลงไปนำร่างขึ้นมาบนฝั่ง และปั๊มหัวใจทันที ขณะที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่ได้โทรแจ้งอาสากู้ภัยฯและทีมแพทย์ฉุกเฉินมาช่วยเหลือแต่ไม่ทันการณ์
ส่วนสาเหตุ คาดว่าลูกน่าจะแอบปีนตะกร้าข้ามคอกกั้นออกมาเล่นกับหมาที่เลี้ยงไว้ เพราะก่อนหน้านี้เคยปีนออกมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เดินออกไปไหนไกล ซึ่งตนก็พยายามเอาตะกร้ามาปิดกั้นไว้ให้สูงกว่าเดิม แต่ไม่คิดว่าลูกจะปีนข้ามออกมาได้อีก
อย่างไรก็ตามสาเหตุยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของตำรวจ เบื้องต้นได้ประสานกู้ภัยนำร่างหนูน้อย ส่งให้แพทย์โรงพยาบาลมะขามชันสูตรยืนยันสาเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบให้ญาติรับกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป
