รวบ นายก อบต. นาทุ่ง สุโขทัย เรียกรับเงินชาวบ้านอ้างเปิดตำแหน่งให้เข้าทำงาน สุดท้ายต้องคืนเงินแถมโดนร้องเรียนออกหมายจับศาลทุจริตภาค 6 ซ้ำ

ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ,พ.ต.อ.สมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ปปป. ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ. ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. นำทีมงานออกสืบสวนกรณีมีการทุจริตเรียกรับเงิน เพื่อเปิดตำแหน่งให้เข้าทำงานในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย

ต่อมา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. นำโดย พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์  ผกก.4 บก.ปปป. พร้อมทีมงาน นำหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 จับกุมตัว นายณรงค์ (สงวนนามสกุล) นายก อบต. แห่งหนึ่งใน จ.สุโขทัย เนื่องจากได้เรียกรับเงินจากชาวบ้าน โดยอ้างว่าหากให้เงินกับตน ตนจะเปิดตำแหน่งเพื่อให้บุตรชายของบุคคลดังกล่าวโอนย้ายจากที่ทำงานเดิม มาทำงานอยู่ที่ อบต. ที่ตนทำงานอยู่ได้ โดยกระทำการอย่างแนบเนียน มีการคุยกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ อบต. และปลัด อบต. เพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อใจยอมมอบเงินกว่า 50,000 บาทแก่ตน แต่เนื่องจากเมื่อถึงเวลาโอนย้ายกลับไม่เปิดตำแหน่งตามที่ได้ตกลงกัน เป็นเหตุให้ฝ่ายชาวบ้านที่หวังว่าจะให้บุตรชายมาทำงานที่ อบต. หัวเสีย ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4บก.ปปป. ได้สอบถามผู้ต้องหาได้ความว่า เหตุเกิดตั้งแต่ประมาณ ปี พ.ศ. 2559 ผู้ต้องหารับสารภาพว่ามีการเรียกรับจริง โดยตนได้ไปรับเงินของบุคคลดังกล่าวที่ต้องการฝากลูกเข้าทำงานถึงที่บ้าน แต่เนื่องจากไม่สามารถที่จะเปิดตำแหน่งให้บุตรชายของบุคคลดังกล่าวได้ จึงได้มีการคืนเงินให้จนครบตามจำนวนที่รับมา ซึ่งได้คืนเงินไปเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2561 ซึ่งการกระทำในครั้งนี้โผล่ชัดว่าทุจริตชัดเจน ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. จึงได้ร่วมกันสืบสวนจนพบตัว และทำการจับกุมในครั้งนี้ โดยกล่าวหาว่า “กระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่” ก่อนนำส่งป.ป.ช. รับตัว และส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ดำเนินคดี

จึงขอฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า การทำงานเป็นข้าราชการ พึงที่จะมีสำนึกในการเข้ามาอย่างสุจริต หากเข้ามาเป็นข้าราชการด้วยการเริ่มต้นด้วยการทุจริต ติดสินบนเจ้าพนักงาน จ่ายเงินเพื่อให้ตนเองได้เข้าทำงาน เมื่อเข้ามาทำงานแล้วก็ไม่ต่างอะไรกันกับการที่เข้ามาเป็นน้ำเสีย ทำให้ข้าราชการที่เป็นเสมือนน้ำดีแปดเปื้อน และเสียกำลังใจ กำลังพลที่ดีในการทำหน้าที่ราชการอีกเช่นเดียวกัน

หากพบการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วน กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) โทร. 02-1919191, 
สายด่วน ป.ป.ช. 1205 (สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ), สายด่วน ป.ป.ท. 1206 (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ) และสายด่วน ป.ป.ง. โทร. 
02-2193600 (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน)

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน