ชาวบ้านแห่มาเต็ม สลดศพหนุ่ม วอนกู้ภัยช่วยพาร่างกลับบ้าน สุดเศร้าเปิดจม.ถึง 3 คน ครอบครัว เผยก่อนหน้าเพิ่งถูกขโมยทรัพย์สินไปจนหมดตัวที่กรุงเทพฯ
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 27 ก.ค. 67 พ.ต.ต.ทวีศักดิ์ รักสกุล สว.สอบสวน สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตภายในบ้าน ม.6 ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พะโต๊ะ แพทย์ รพ.พะโต๊ะ และ เจ้าหน้าที่ชุดอาสากู้ชีพ รพ.พะโต๊ะ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่ริมถนนซอยสายจุดชมวิวเขานมสาว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับหนึ่งของจังหวัดชุมพร ห่างจากถนนสายพะโต๊ะ-ราชกรูด กว่า 2 กม. เจ้าหน้าที่พบนายสุชาติ เจ้าของบ้านพร้อมชาวบ้าน กว่า 20 คน ยืนอออยู่บริเวณหน้าประตูหน้าบ้าน
หลังเกิดเหตุจึงได้กันพื้นที่หวั่นจะทำลายร่องรอยพยานหลักฐาน ก่อนเข้าทำการตรวจสอบ
โดยภายในบ้าน ถัดจากห้องโถงหน้าบ้านเข้าไปเป็นทางเดินเล็กๆ เพื่อเดินเข้าไปห้องหลังบ้าน ซึ่งจะเป็นห้องครัวและห้องน้ำ
เจ้าหน้าที่พบนายทวี อายุ 37 ปี อยู่ ม.1 ต.พ่วงพรมคร อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงผ้าร่มขาสั้นสีน้ำเงิน อยู่ในสภาพใช้เชือกไนล่อน ขนาดเท่านิ้วก้อย จบชีวิตตัวเองกับไม้ขื่อหลังคา จึงได้เก็บพยานหลักฐานหาร่องรอยโดยรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด จึงได้นำร่างลงมา ซึ่งก็ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบภายในกางเกงที่สวมใส่ด้านซ้าย เจ้าหน้าที่พบกระดาษขนาด เอ4 ถูกพับขนาด ¼ จำนวน 3 ฉบับ แต่ละฉบับ เขียนด้วยปากกาน้ำหมึกสีน้ำเงิน ระบุถึง ครอบครัวผม , M คนขอนแก่น และ พี่ช้าง กทม.
เจ้าหน้าที่จึงนำมาคลี่เปิดอ่าน โดยฉบับที่ระบุถึงครอบครัวผม มีใจความว่า แม่ ผมกราบขอโทษแม่ที่สุด ผมมันไม่ดีเห็นแก่ตัว แต่แม่รู้มั้ย ถึงผมจะเป็นคนเลวในสายตาทุกคน แต่ผมก็รักแม่มาก คิดถึงทุกวัน อยากกลับไปอยู่บ้านทุกวัน แต่ไม่รู้ทำไมเรื่องแค่นี้ที่ต้องทำ กลับทำไม่ได้เสียเลย ผมรู้ว่าผมทำสิ่งไม่ดีไว้กับครอบครัวเยอะมาก จนน้องของผมไม่เอาผมเลย ผมไม่เคยโกรธ ผมก็ยังคิดถึงทุกวัน ที่มีน้องสาวเก่งที่สุดคนนึง ถึงไม่ได้คุยกันเลย อยากบอกว่าพี่ของโทษนะผึ้ง ที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ไอ้หวาน บ่าวยังรักยังห่วงมึงมากที่สุดรู้มั้ย ฝากน้องทั้งสอง ดูแลแม่ด้วยน่ะ อย่าโกรธ อย่าเคืองพี่ชายชั่วๆคนนี้เลยน่ะ พร้อมลงชื่อ ทวี …. ที่มุมกระดาษด้านล่าง
ส่วนอีกสองฉบับ เป็นลายมือเดียวกัน ได้เขียนถึงคนที่ชื่อช้าง โดยผู้ตายได้ใช้คำเรียกว่า พี่ช้าง โดยเนื้อหาเป็นการขอโทษและฝากฝังแม่และน้องสาว พร้อมขอโทษในพฤติกรรมของตนเองที่ทำในสิ่งไม่ดีลงไป และอีกฉบับได้เขียนถึงเพื่อนรุ่นน้อง ชื่อ เอ็ม คาดเป็นคนอีสาน เพราะในเนื้อหาได้เขียนเรียกบักหำน้อย เป็นการกระเซ้าเย้าแหย่
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ ยังพบกระดาษอีก 1 แผ่น อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวา ในข้อความได้เขียนถึงเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ว่า พาผมกลับบ้านด้วยนะครับ ผมชื่อนายทวี … อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ …. ม.1 ต.พ่วงพรมคร หมู่บ้านควนสามัคคี อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี 84210 ในจดหมายยังเขียนระบายว่า
โทรศัพท์ กระเป๋าเงินและกระเป๋าเสื้อผ้าหายที่กรุงเทพ อีกทั้งยังเขียนขอบคุณพี่ชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ได้ช่วยเหลือให้มาอยู่ด้วยที่ชุมพร ก่อนจะต่อท้ายด้วยอีกว่า ผมคิดถึงแม่และน้องทั้งสอง
เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บจดหมายทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะสอบถาม นายสุชาติ บุรีรัตน์ เจ้าของบ้าน ทราบว่า ก่อหน้าที่จะเกิดเหตุ ตนเองได้ไปทำธุระที่กรุงเทพฯและได้ไปเจอ นายทวี ผู้ตาย อยู่ในสภาพเหม่อลอย และสอบถามจนได้ใจความว่า ถูกขโมยทรัพย์สินไปจนหมดตัว และกำลังจะกลับบ้านที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตนเองเห็นว่า เป็นคนใต้ และตกทุกข์ได้ยาก จึงได้ชวนให้กลับมาด้วยกัน และได้ให้พักอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดเหตุไปก่อน รอจัดการในสวนให้เป็นที่เรียบร้อยก่อนจะไปส่ง
นายสุชาติ ยังเล่าอีกว่า ประกอบกับนายทวี ผู้ตาย อยู่ในสภาพคล้ายคนซึมเศร้า เหม่อลอย จำอะไรไม่ได้มากมาย ตนเองจึงได้พยายามช่วยรื้อฟื้นความจำ จนหลายวันเข้าเริ่มคุยสนทนาดี จำอะไรได้หลายๆอย่าง โดยเฉพาะชื่อ อายุ ที่อยู่ ซึ่งตนให้เขียนไว้ และบอกว่าจะพาไปส่งตามที่ผู้ตายขอร้อง แต่ยังไม่ทันที่จะไปส่ง วันนี้หลังจากที่กลับมาจากนำมังคุดไปส่งขายในตลาด ก็พบนายทวี จบชีวิตไปแล้ว
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำร่างไปจัดเก็บไว้ที่ รพ.พะโต๊ะ ก่อน พร้อมจะติดต่อทางญาติ มารับศพและสอบรายละเอียดหากติดใจเรื่องใดของการตายครั้งนี้ ก็จะได้ดำเนินการตามที่ญาติต้องการต่อไป