เดือดหน้าโรงพัก! ลูกหนี้ขู่แจ้งจับ เจ้าหนี้โยกโย้ ไม่เอาถังแก๊ส ที่ยึดเป็นตัวประกันมาคืน ทุกทิศทั่วไทย

เดือดหน้าโรงพัก! ลูกหนี้ขู่แจ้งจับ เจ้าหนี้โยกโย้ ไม่เอาถังแก๊ส 6 ใบ ที่ยึดเป็นตัวประกันมาคืน อ้างยังหารถขนมาไม่ได้ ปะทะคารมเดือด ก่อนยอมใช้หนี้ที่ค้าง

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.67 ที่สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น.ส.วาสนา (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ลูกหนี้ พร้อมกับหลานสาวเดินทางมายังโรงพัก พร้อมกับ น.ส.ช่อลดา อายุ 58 ปี ฝ่ายเจ้าหนี้ พร้อมกลุ่มญาติ ซึ่งขับรถกระบะบรรทุกถังแก๊ส จำนวน 6 ใบ มาจอดหน้าโรงพัก ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะเปิดศึกโต้เถียงกันอย่างดุเดือด

โดย น.ส.วาสนา ซึ่งเป็นลูกหนี้ กล่าวหาว่าฝ่าย น.ส.ช่อลดา เจ้าหนี้โยกโย้ เล่นเหลี่ยม ไม่เอาถังแก๊สจำนวน 6 ใบ ที่ยึดเป็นตัวประกันไว้มาคืนให้ ตามที่ลงบันทึกประจำวัน ทำสัญญาเงินกู้ยืมที่ตกลงไถ่ถอนกันไว้

ขณะที่หลานชาย น.ส.ช่อลดา ตอบโต้ว่า จะไม่ให้เวลาฝ่ายเจ้าหนี้หารถกระบะขนถังแก๊สมาเลยหรือ ป้าของเขารอเงินใช้หนี้มาเป็นปี ๆ ยังรอได้ ทำให้ต่างฝ่ายต่างโต้เถียงกันไปมา รวมทั้งเรื่องที่ฝ่ายหลานสาวของน.ส.วาสนา ไปไลฟ์สดด่าและข่มขู่ฝั่งหลานของน.ส.ช่อลดา ว่าจะนำระเบิดไปวางใส่ร้านขายโจ๊กอีกด้วย

ต่อมาระหว่างที่ต่างฝ่ายต่างจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกันนั้น ผู้สื่อข่าวขอดูใบลงบันทึกประจำวัน ที่ทั้ง 2 ฝ่ายเดินทางมาทำสัญญาตกลงกันไว้ ก่อนหน้าจึงพบว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค ที่ผ่านมา น.ส.วาสนา ฝ่ายลูกหนี้และน.ส.ช่อลดา ฝ่ายเจ้าหนี้ เดินทางมาทำสัญญาตกลงค่าเสียหายและชดใช้เงินกู้ยืม

น.ส.วาสนา นำถังแก๊ส ขนาด 15 กิโลกรัม จำนวน 5 ถัง และถังแก๊ส 4 กิโลกรัม 1 ใบ เป็นทรัพย์สินค้ำประกันระหว่างที่ น.ส.วาสนากู้ยืมเงินไป 1.2 หมื่นบาท และทาง น.ส.ช่อลดาจะรับผิดชอบซ่อมหน้าจอแท็บเล็ตที่แตกร้าว จากการไปติดตามทวงหนี้ให้กับน.ส.วาสนา โดยมีกำหนดนัดหมายคืนเงินและคืนถังแก๊สกันในวันที่ 5 ส.ค.นี้

แต่ปรากฎว่าฝ่าย น.ส.วาสนา สามารถรวบรวมเงิน 12,000 บาท เพื่อมาใช้หนี้และไถ่ถอนถังแก๊สทั้งหมดได้ จึงติดต่อนัดหมายให้ทางน.ส.ช่อลดา นำถังแก๊สมาคืนให้ที่โรงพัก ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ปรากฎว่าในระหว่างที่น.ส.วาสนาพูดคุยกับน.ส.ช่อลดาฝ่ายเจ้าหนี้ เพื่อให้นำถังแก๊สมาคืนนั้น น.ส.ช่อลดาอ้างว่ายังหารถขนถังแก๊สไม่ได้ ต้องรอรถหลานชายที่ออกไปทำธุระอีกประมาณ 3 ชั่วโมง

จึงทำให้น.ส.วาสนาเกรงว่าน.ส.ช่อลดา จะเล่นแง่ ไม่นำถังแก๊สมาคืนตามที่ทำสัญญาตกลงกันไว้ จึงต่อว่าน.ส.ช่อลดาฝ่ายเจ้าหนี้ ไปว่า เล่นแง่ เล่นเหลี่ยม และจะเข้าแจ้งความในข้อหายักยอกทรัพย์ จึงทำให้ฝ่ายน.ส.ช่อลดา และครอบครัวไม่พอใจ เมื่อนำถังแก๊สขึ้นรถกระบะมาถึงโรงพัก จึงเกิดการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด

ต่อมาทั้ง 2 ฝ่ายยังโต้เถียงกันไปมาอีกหลายเรื่อง รวมทั้งค่าซ่อมแท็บเล็ตของน.ส.วาสนาที่หน้าจอพังเสียหาย ซึ่งน.ส.วาสนาเรียกค่าซ่อมหน้าจอเป็น 2,000 บาท ที่น.ส.ช่อลดาฝ่ายเจ้าหนี้ทำเสียหาย แต่ฝ่าย น.ส.ช่อลดา เห็นว่าค่าซ่อมหน้าจอแพงเกินไป จึงเกิดการโต้เถียงในโรงพักกันอีกรอบ

ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะมาได้บทสรุปภายหลังว่า น.ส.วาสนาจะชดใช้เงินที่กู้ยืมเงินไปคืนให้จำนวน 10,500 บาท โดยหักเป็นค่าซ่อมหน้าจอแท็บเล็ตไป 1,500 บาท จากยอดเงินติดค้าง 12,000 บาท เพื่อไถ่ถังแก๊สจำนวน 6 ใบกลับคืน ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะแยกย้ายกันไป

น.ส.ช่อลดา ฝ่ายเจ้าหนี้ กล่าวว่า น.ส.วาสนามาหยิบยืมเงินจากตนไปประมาณ 3 หมื่นบาท แต่ทยอยใช้หนี้มาแล้วจนเหลือเงินต้น 12,000 บาท จากนั้นก็บ่ายเบี่ยงที่จะชดใช้หนี้ที่เหลือกับตนมาเป็นปีๆ จนกระทั่งต่อมาตนบุกทวงไปหนี้ที่ร้านของเขา

และทำหน้าจอแท็บเล็ตของเขาพัง ซึ่งส่วนนี้ตนก็ยอมชดใช้ค่าซ่อมให้ แต่ในวันนั้นทางน.ส.วาสนายังไม่มีเงินมาใช้หนี้ให้กับตน จึงเสนอมาว่าให้ตนเอาถังแก๊สใบใหญ่ 5 ใบ และถังแก๊สลูกเล็กอีก 1 ใบ ค้ำประกันเงินที่ติดค้างไว้ก่อน

โดยเขาเป็นฝ่ายให้หลานชายเขาขนถังแก๊สในร้านออกมาให้ตนถึงที่รถ โดยลงบันทึกประจำวันกันไว้เรียบร้อย ว่าจะนำเงินที่ค้างอีก 12,000 บาท มาคืนให้กับตนภายในวันที่ 5 ส.ค.นี้ แต่ปรากฏว่าเช้าวันนี้ทางน.ส.วาสนา ซึ่งหาเงินมาใช้หนี้ได้แล้ว โทรศัพท์มาเร่งให้ตนรีบนำถังแก๊สมาคืนที่โรงพักเร็วๆ ซึ่งตนก็ไม่ทันเตรียมตัวมาก่อน รถกระบะที่จะใช้ขนถังแก๊ส หลานชายก็นำไปทำธุระ จึงบอกให้ทาง น.ส.วาสนา รออยู่ที่โรงพักก่อน

แต่ น.ส.วาสนากลับต่อว่า กล่าวหาว่าตนเล่นแง่ ไม่คืนถังแก๊สให้ตามที่ตกลง และจะเข้าแจ้งความจับตน หาว่าตนยักยอกถังแก๊สเขาไป ตนและกลุ่มหลานๆของตนจึงเกิดความไม่พอใจอย่างมาก และเกิดการโต้เถียงกันตามมาอีก เรื่องที่น.ส.วาสนาจะเรียกค่าซ่อมหน้าจอแท็บเล็ต 2,000 บาท

แต่หลานตนเห็นว่าเป็นค่าซ่อมที่แพงเกินไป จึงให้น.ส.วาสนาจ่ายเงิน 12,000 บาท มาให้ครบเสียก่อน แล้วหลังจากนั้น ทางฝ่ายหลานตนจะนำแท็บเล็ตไปซ่อมให้เอง ตนจึงตัดสินใจเรียกเงินจาก น.ส.วาสนาจำนวน 10,500 บาท โดยให้หักค่าซ่อมไป 1,500 บาท น.ส.วาสนาจึงกดโอนเงินมาให้ตน 10,500 บาท เพื่อนำแท็บเล็ตไปซ่อมเอง ก่อนที่ น.ส.วาสนาจะขนถังแก๊สขึ้นรถกระบะกลับไป