ผกก.ปทุมวัน ยันลูกน้องทำตามกฎหมาย กรณีกระชากแขนไรเดอร์รถล้ม ทำ ลูกค้า หัวกระแทกพื้นนอนนิ่ง

จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปจากภาพกล้องหน้ารถพลเมืองดี ที่สามารถบันทึกภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน บังคับใช้กฎหมายเข้มไม่สวมหมวกกันน็อก วิ่งไล่กระชากไรเดอร์และผู้โดยสารสาวที่ไม่ได้สวมหมวกกันน็อก ทำให้รถเสียหลัก และผู้โดยสารผู้หญิงหล่นจากรถ ก่อนที่ศีรษะจะกระแทกฟุตปาธและพื้นโดยในคลิปจะเห็นว่าเธอนอนนิ่งทันที

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์ผู้โดยสารตกจากมอเตอร์ไซค์ ตำรวจกลับวิ่งไปเก็บอุปกรณ์ที่ทำหล่น โดยไม่มีท่าทีเป็นห่วงผู้โดยสารอีกด้วย สร้างเสียงวิพากย์วิจารณ์จากประชาชนที่ได้เห็นคลิปดังกล่าวเป็นอย่างมาก ล่าสุด ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เตรียมเอาผิดกับนายตำรวจคนดังกล่าว ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมา พ.ต.อ.ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผกก.สน.ปทุมวัน ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชน โดยระบุว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาคนขับไว้ 4 ข้อหาคือ 1. ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ 2. ไม่จัดให้ผู้โดยสาร (คนซ้อน) สวมหมวกนิรภัย 3. ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รับจ้างสาธารณะ (ป้ายเหลือง) 4. ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานเรียกให้หยุด ส่วนเรื่องของข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ต้องดูเรื่องผลตรวจร่างกายผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่กระชากไรเดอร์จนเสียหลักล้มนั้น ทางเจ้าหน้าที่พยายามปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายด้วยความตั้งใจ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ต้องไปดูสาเหตุว่าเกิดจากจุดไหน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ไม่ได้มีการตั้งด่าน แต่เป็นช่วงเวลาของการกวดขันวินัยจราจร ขณะนั้นตำรวจไม่ทราบว่าเป็นไรเดอร์ เพราะป้ายทะเบียนสีขาว ไม่มีการใส่เสื้อ หรือแสดงสัญลักษณ์อะไรบ่งบอกว่าเป็นไรเดอร์ มีการขับขี่ฝ่าสัญญาณไฟแดง ณ จุดนั้น ตำรวจที่เห็นอยู่จึงแจ้งสกัด แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร มีการกลับรถย้อนกลับมาทางสามย่าน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย