เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 ธันวาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า สถานการณ์ตลอดวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ยังคงมีความตึงเครียดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเกิดการปะทะด้วยอาวุธยิงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กำลังฝ่ายไทยยังสามารถควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญไว้ได้ทั้งหมด
พื้นที่ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี บริเวณช่องบกและช่องอานม้า ฝ่ายไทยวางกำลังตรึงแนวชายแดนอย่างเข้มแข็ง พร้อมเร่งเสริมสร้างที่กำบังในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ รวมถึงดำเนินการเคลียร์และทำลายบังเกอร์ของฝ่ายกัมพูชา เพื่อสถาปนาความมั่นคงในพื้นที่
ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ หลายพื้นที่เกิดการปะทะอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะแนวซำแต–โดนตวล–ภูผี–สัตตะโสม–พนมประสิทธิโส–ช่องตาเฒ่า ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธยิงสนับสนุนหลายประเภทเป็นระยะ ขณะที่ฝ่ายไทยใช้อาวุธยิงสนับสนุนและอากาศยานไร้คนขับตอบโต้ทันที โดยไม่พบการรุกภาคพื้นขนาดใหญ่ ในช่วงค่ำตรวจพบขบวนรถฝ่ายกัมพูชาจำนวน 5 คัน และถูกฝ่ายไทยใช้อาวุธยิงสนับสนุนทำลาย
พื้นที่ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย นับเป็นจุดปะทะสำคัญของวัน มีการยิงปืนใหญ่ตั้งแต่เช้ามืดต่อเนื่องตลอดวัน ฝ่ายกัมพูชาใช้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงเข้ามา ขณะที่ฝ่ายไทยยิงตอบโต้และสามารถทำลายที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายตรงข้ามได้ มีกำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด แต่ยังคงควบคุมพื้นที่ไว้ได้
ส่วนพื้นที่ภูมะเขือ-ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 เข้ามา ก่อนที่ฝ่ายไทยจะใช้อากาศยานไร้คนขับโจมตีเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่พื้นที่ช่องสะงำยังไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ
ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ หลายพื้นที่ยังเป็นการตรึงกำลังและเสริมความมั่นคง ฝ่ายไทยใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงข่มเป้าหมายทางทหารเป็นระยะ แม้ตรวจพบการยิงจรวด BM-21 ในบางจุด แต่ยังไม่พบการเข้าตีประชิด อย่างไรก็ตาม พื้นที่ตาเมือนธมเกิดการปะทะด้วยอาวุธปืนเล็กอย่างหนาแน่น ฝ่ายกัมพูชาใช้รถถัง จรวด BM-21 และตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับจำนวนมากบินเหนือพื้นที่ แต่ฝ่ายไทยยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ บริเวณช่องสายตะกู เกิดการปะทะในช่วงเช้า ฝ่ายไทยใช้อาวุธยิงสนับสนุนข่มที่ตั้งของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งมีการยิงตอบโต้กลับมาในพื้นที่เช่นกัน
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ส่วนหลัง ตรวจพบกระสุนและจรวดจากการยิงของฝ่ายกัมพูชาตกในเขตชุมชนหลายแห่งในจังหวัดศรีสะเกษและสุรินทร์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบความเสียหาย และดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างใกล้ชิด
รายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุเพิ่มเติมว่า ในช่วงกลางคืนต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้ ยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง โดยฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 เข้ามาหลายระลอก ขณะที่ฝ่ายไทยใช้อาวุธปืนใหญ่ตอบโต้เพื่อทำลายเป้าหมายทางทหาร พร้อมใช้อากาศยานเข้าทำลายพื้นที่เป้าหมาย เพื่อสกัดและตัดเส้นทางลำเลียงกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายกัมพูชา
