ขอนแก่นอ่วม บ้านไผ่-มัญจาคีรี จมหลังเจอร่องมรสุมพัดผ่าน

ร่องมรสุมที่พาดผ่านจังหวัดขอนแก่น ทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอมัญจาคีรี และอำเภอบ้านไผ่ หลายหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนสาย2062 มัญจาคีรี ช่วงบริเวณสวนหม่อน หมู่ 1 ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ทางเข้าตัวอำเภอมีมวลน้ำไหลจากคลองชีรอง ก่อนที่จะล้นตลิ่งไหลท่วมถนนเป็นระยะทางยาวกว่า 300 เมตร รถทุกชนิดสัญจรผ่านไปด้วยความลำบาก

นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะชุมชนซอย10 ถนนหน้าเมือง น้ำมีระดับสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร และระดับน้ำยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ชาวบ้านต้องนำกระสอบทรายมากั้น เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้าน หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ จะทำให้ระดับน้ำลดลงภายใน 1-2 วันนี้

ขณะที่ นายกองโทพิชัย วันตา นายอำเภอบ้านไผ่ พร้อมด้วย นายวรพล ภัคสุขชัย รองนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ประเมินสถานการณ์น้ำท่วม ที่บริเวณริมลำห้วยทรายและลำห้วยจิก ซึ่งเป็นลำห้วยรับน้ำสำคัญของอำเภอบ้านไผ่ หลังเออล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

ที่พักอาศัยอยู่ริมลำห้วย ได้รับผลกระทบ มวลน้ำเข้าไปเกือบถึงหลังคา บางคนเคลื่อนย้ายทรัพย์สินไม่ทัน ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย โดยทางเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ได้ทำการกำจัดวัชพืชที่ขวางทางน้ำ ในชุมชนโนนสว่าง หมู่ 5 เพื่อให้มวลน้ำได้ระบายได้รวดเร็ว ก็จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้เร็วขึ้น

ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนที่อยู่ในชุมชน ยังไม่อพยพออกจากบ้าน เนื่องจากห่วงในเรื่องของทรัพย์สินที่สูญหาย และบางคนมีบ้านสองชั้น ก็อาศัยอยู่ที่บริเวณชั้นสอง โดยทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จะนำอาหารเครื่องดื่ม รวมทั้งยารักษาโรคไปแจก ในช่วงเช้า-เที่ยง-เย็น

นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่าสถานการณ์น้ำท่วมในอ.บ้านไผ่ขณะนี้ จากที่มีฝนตกลงมา 93 มิลลิเมตร ในพื้นที่ตำบล บ้านลาน, ป่าปอ, แคนเหนือ, หินตั้ง, หนองน้ำใส และตำบลภูเหล็ก ซึ่งเป็นที่สูงมีพื้นที่รับน้ำเยอะ มวลน้ำจึงไหลลงสู่ลำห้วยทรายและลำห้วยจิก มารวมกันที่จุดนี้

โดยเมื่อช่วงเช้าน้ำลดลงได้ 40 ซม. ทำให้ในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น โดยทางเทศบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือเป็นการด่วนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยน้ำเอ่อล้น ทำให้ได้รับผลกระทบใน 5 ชุมชน ซึ่งมวลน้ำจะไหลผ่านลงสู่แก่งละว้า

เบื้องต้น ตามแผนการช่วยเหลือจะรอมวลน้ำลดลง และจะเข้าไปช่วยเหลือ โดยในระหว่างที่รอมวลน้ำลดลงนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะเข้าไปมอบอาหารเครื่องดื่ม รวมทั้งตั้งเต็นท์อพยพที่บริเวณด้านหน้าชุมขน ในส่วนที่เป็นจุดล่อแหลม เช่นไฟฟ้าก็จะมีการไฟฟ้ามาช่วยดู อย่างไรก็ตามเวลานี้ฝนหยุดตกแล้ว ทำให้น้ำเริ่มลดลง หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ คาดว่า 2-3 วันก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ