ภาพสาววัย 22 นั่งร้องไห้ในโถงทางเดินโรงพยาบาล หลังรู้ผลตรวจ “มะเร็ง” แพทย์เผยเรื่องจริงสุดสะเทือนใจ อาจต้องปลูกถ่ายไขกระดูก
กลายเป็นภาพไวรัลที่สะเทือนใจผู้คนในโลกออนไลน์ เมื่อคลิปวิดีโอสั้นๆ เผยให้เห็นหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่ง นั่งก้มหน้าร้องไห้บนเก้าอี้ริมทางเดินของโรงพยาบาลในเวียดนาม มือยังถือผลการตรวจร่างกาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าสลดและความสิ้นหวัง ภาพดังกล่าวถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว พร้อมข้อความระบุว่า เธอเพิ่งทราบผลตรวจว่าเป็น “มะเร็งเลือด” หรือมะเร็งระบบโลหิตวิทยา ซึ่งสร้างความหดหู่ให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เรื่องราวในภาพเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หญิงสาวในภาพอายุเพียง 22 ปี และเพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เธอเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าเรื้อรังตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน และมีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือนที่มาไม่ปกติ จึงตัดสินใจไปตรวจสุขภาพ
ในตอนแรก หญิงสาวเข้ารับการตรวจในแผนกสูตินรีเวช แต่ผลตรวจเลือดพบความผิดปกติ ทำให้เธอถูกส่งตัวต่อไปยังแผนกมะเร็งวิทยาเพื่อทำการตรวจเชิงลึก เมื่อทำการอัลตราซาวด์ช่องท้อง แพทย์พบก้อนเนื้อน่าสงสัย จากนั้นมีการตรวจ CT Scan ที่บริเวณช่องอกและช่องท้อง พบว่ามีต่อมน้ำเหลืองผิดปกติอยู่หลังเยื่อบุช่องท้องและบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว รวมถึงบางจุดในช่องอก ผลการตรวจชิ้นเนื้อจากต่อมน้ำเหลืองในช่องท้องชี้ชัดว่า เธอป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Non-Hodgkin
Dr.Nguyễn Duy Anh จากแผนกมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลชื่อดังในกรุงฮานอย ผู้ตรวจวินิจฉัยหญิงสาวรายนี้ เปิดเผยว่า แนวทางการรักษาคือการทำเคมีบำบัด (คีโม) และมีแนวโน้มว่าผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องรับการปลูกถ่ายไขกระดูกจากผู้บริจาคที่มีความเข้ากันได้
ทั้งนี้ หลังจากได้รับผลวินิจฉัย หญิงสาวมีอาการช็อกและจิตใจย่ำแย่ ทีมแพทย์และพยาบาลจึงต้องเข้ามาให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาเพื่อช่วยให้เธอสงบลง ก่อนจะตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งข่าวกับครอบครัวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ขณะเดียวกันหลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป โลกออนไลน์ได้ร่วมกันส่งกำลังใจจำนวนมากให้กับหญิงสาวคนนี้ เช่น “จะไม่ช็อกได้อย่างไรเมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็ง ขอให้หนูเข้มแข็งและผ่านมันไปได้” , “กลับบ้านไปหาครอบครัวนะ พวกเขาจะเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดให้ลูก” , “ขออ้อมกอดแห่งความหวังให้เธอ ขอให้หายดีในเร็ววัน”
เรื่องราวของหญิงสาววัย 22 ปีรายนี้ ผู้เผชิญหน้ากับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางของชีวิต และพลังของกำลังใจจากผู้คนรอบตัว ทั้งแพทย์ ครอบครัว และสังคมออนไลน์ ที่ต่างร่วมเป็นกำลังใจให้เธอผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างเข้มแข็ง