ไม่ใช่อวดจิ๊มิเมีย เผย 2 คนงานเลี้ยงเป็ด ฟันกันสาหัส ปมอวดจิมิ 2 สาวคนสนิทที่มาหาที่แคมป์ ด้าน เจ้าของเป็ด เตรียมเยี่ยมคนเจ็บ คาดรอบนี้เมาหนักทั้งคู่
จากกรณี นายหน่อย อายุ 48 ปี หนุ่มคนงานเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง โดนนายน้อง หนุ่มชาวลาว อายุประมาณ 35 ปี ฟันเข้าที่หู กลางศีรษะ และแขน เพราะนั่งกินเหล้าเมาแล้วอวดของลับของเมียของตนเองว่า ของลับของเมียของใครมีขนาดใหญ่กว่ากัน จนมีปากเสียงทะเลาะกัน สุดท้ายนางน้องมือฟันก็หลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณร้านค้ากลางซอย ถนนเรียบคลองเจ้า ม.9 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 5 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่พักคนงานเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง กลางท้องนา ห่างจากร้านค้าประมาณ 300 เมตร ลักษณะปลูกเป็นเพิงพักชั่วคราวและเต็นท์สำเร็จรูป พบเจ้าของเป็ดคือ นางดารณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี และคนงานที่เหลือกำลังเก็บกวาดบริเวณวงเหล้าที่เกิดเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายน้องผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว
นางดารณี กล่าวว่า ตนก็เพิ่งมารู้เมื่อเช้าว่าลูกน้องทะเลาะกันเรื่องของลับ แต่ที่อวดของลับกันไม่น่าจะใช่ของภรรยา เนื่องจากช่วงค่ำของทุกคืนจะมีผู้หญิงที่อยู่แถว ๆ นี้ มาหานายหน่อยและนายน้อง และมักจะถือเหล้าขาวมานั่งกินกันบริเวณหน้าเต็นท์ของนายหน่อย
นางดารณี กล่าวต่อว่า ซึ่งตนจะซื้อเหล้าขาววันละกั๊กแจกลูกน้องอยู่แล้ว แต่มาทราบภายหลังว่าลูกน้อง เวลากินหมดแล้วก็จะออกไปซื้อเพิ่มหรือบางทีผู้หญิงที่มาหาก็จะหิ้วเหล้ามาด้วย โดยนายหน่อยผู้บาดเจ็บ เป็นคนค่อนข้างดุกับเพื่อนร่วมงาน แต่จะสปอร์ตและใจดีกับผู้หญิง
นางดารณี กล่าวอีกว่า โดยผู้หญิงที่มาหาก็จะได้เป็ดได้ไข่เป็ดกลับบ้านไปเป็นประจำ ซึ่งลูกน้องหลังเมาได้ที่แล้วก็เข้าไปนอนในเต็นท์ใครเต้นท์มัน โดยมีผู้หญิงที่มาหาเข้าไปด้วย ตนจึงคิดว่าที่ทั้งสองอวดของลับกันนั้น ไม่น่าจะใช่ของลับของเมียตัวเอง แต่น่าจะเป็นของผู้หญิงแถวนี้ที่มาหา 2 คนนี้
นางดารณี กล่าวด้วยว่า โดยปกติแล้วนายน้องเป็นคนเงียบและกลัวนายหน่อย แต่รอบนี้คงเมาหนักและคงจะโดนข่ม จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปหานายหน่อย ผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้นายน้องมือฟันได้หนีไปแล้ว
ด้าน นายจ่อย หนึ่งในคนงานเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง กล่าวว่า เมื่อคืนมีผู้หญิง 2 คนมาหานายหน่อยและนายน้องจริง โดยถือเหล้าขาวมาด้วย ตอนแรกก็นั่งกินกันปกติดี แต่พอค่ำตนเดินกลับเข้ามาที่พักได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวาย เห็นนายหน่อยวิ่งร้องโอดโอยออกไปที่ถนน
นายจ่อย กล่าวต่อว่า ส่วนนายน้องก็เดินเข้ามากอดตน บอกลาและบอกว่าได้ฟันนายหน่อยเข้าไปแล้ว ส่วนเรื่องของลับนั้น ทั้งสองก็คุยกันปกติในวงเหล้า แต่รอบนี้ไม่รู้ทำไมถึงมาติดใจว่าขนาดของใครนั้นใหญ่กว่ากัน
ขณะที่ นายวีรพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี เจ้าของร้านขายของชำ กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา หนึ่งในคนงานได้เดินมาซื้อเหล้าขาว 40 ดีกรีที่ร้านของตน 1 ขวด ก่อนจะเดินกลับไป
นายวีรพล กล่าวต่อว่า พอตกดึกผู้บาดเจ็บก็วิ่งมาตามถนน ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ หัวและตัวเปียกโชกไปด้วยเลือด โดยนายหน่อยบอกเพียงว่า โดนคนงานในวงเหล้าฟันมา เพิ่งจะมารู้จากข่าวเมื่อเช้าว่าที่แท้ทะเลาะกันเรื่องของลับใครใหญ่กว่ากัน
นายนิคม บริสุทธิ์ อายุ 53 ปี ส.อบต.คลองหลวงแพ่ง กล่าวว่า เมื่อคืนหลังรับแจ้งเรื่องก็เดินทางมาที่ร้านขายของ พบเห็นนายหน่อยอยู่ในอาการเสียเลือดมาก จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งเข้ามาให้การช่วยเหลือ
ซึ่งหลังจากนี้จะประสานคุยกับนางดารณี นายจ้างของทั้งสองคนว่าจะเจรจาไกล่เกลี่ยกันอย่างไร หรือถ้านายหน่อย ผู้บาดเจ็บ ประสงค์จะเอาเรื่อง แจ้งความก็จะพาไปหลังจากที่นายหน่อย ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว