สาววัย 17 ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย สิ้นหวังหยุดทำเคมีบำบัด แต่กลับพบปาฏิหาริย์หายป่วยภายใน 1 เดือน
มาลียาห์ ฮอบส์ จากอังกฤษ ขณะอายุ 17 ปี เริ่มมีอาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ปวดท้องและกระเพาะปัสสาวะอย่างรุนแรง ท้องผูก และมีเหงื่อออกตอนกลางคืน
“หมอในเมืองของฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไร ฉันเคยอ้อนวอนหมอประจำตัวให้ส่งฉันไปพบสูตินรีแพทย์ แต่เขาปฏิเสธ และเลือกส่งฉันไปหาหมอทางเดินอาหารแทน เพราะผลตรวจเลือดของฉันมีความผิดปกติ ขอบคุณพระเจ้า ที่เขาทำเช่นนั้น ฉันเรียกหมอคนนั้นว่าผู้ช่วยชีวิตของฉัน”
แพทย์เฉพาะทางด้านตับสงสัยว่ามาลียาห์อาจมีอาการร้ายแรง จึงส่งตัวเธอไปหาสูตินรีแพทย์ในวันเดียวกัน ซึ่งต่อมาได้ทำอัลตราซาวนด์และเร่งให้เธอเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล
“หมอรังสีวินิจฉัยที่มีประสบการณ์อ่านผลตรวจของฉัน และคิดว่าฉันอาจเป็นมะเร็งรังไข่” เธอเล่า
พบมะเร็งในวัย 17 ปี
ผลตรวจชิ้นเนื้อยืนยันว่ามาลียาห์เป็นมะเร็ง และเธอจึงเข้ารับการรักษาทันทีด้วยเคมีบำบัดสำหรับมะเร็งรังไข่
“ฉันได้รับยาแพคคลิแทกเซล ซึ่งเป็นเคมีบำบัดที่รุนแรงมาก” เธอเล่า “ผลข้างเคียงแย่มาก” แต่แล้วไม่กี่สัปดาห์ต่อมา หมอก็แจ้งข่าวที่น่าตกใจว่าโรคของเธอไม่ใช่มะเร็งรังไข่ แต่เป็น มะเร็งเยื่อบุช่องท้องชนิดมีโอกาสเกิดน้อยมาก
มะเร็งเยื่อบุช่องท้องเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก และมักเกี่ยวข้องกับการสัมผัสแร่ใยหิน โรคนี้แทบไม่เคยพบในผู้หญิงวัยรุ่น “ฉันรู้ว่านี่คือมะเร็งที่พบในผู้ชายสูงวัย ฉันเคยเห็นโฆษณาเกี่ยวกับแร่ใยหิน แล้วฉันจะเป็นมะเร็งนี้ได้ยังไงในวัย 17 ปี?” มาลียาห์กล่าว
จากนั้นเธอได้รับข่าวร้ายยิ่งกว่า มะเร็งของเธออยู่ในระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของโรคที่ลุกลามรุนแรง
“ฉันคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ พอพวกเขาบอกว่าระยะ 4 ฉันรู้ว่ามันร้ายแรงมาก จากนั้นพวกเขาก็บอกว่าเคมีบำบัดจะทำให้ฉันเป็นหมัน นั่นทำให้ฉันหัวใจสลาย ฉันเคยฝันมาตลอดว่าอยากเป็นแม่”
“พอหมอบอกว่าพวกเขาทำได้แค่ควบคุมอาการเจ็บปวดของฉัน ฉันก็หมดหวังจริงๆ ฉันเชื่อว่าตัวเองจะต้องตาย” มาลียาห์ได้รับเคมีบำบัดหลายรอบ และลองใช้ยาหลายสูตร แต่ไม่มีวิธีใดได้ผล
ปาฏิหาริย์จากสายโทรศัพท์
เคมีบำบัดส่งผลกระทบหนักทั้งร่างกายและจิตใจของเธอ “มันแย่มาก” เธอกล่าว “ฉันผมร่วง น้ำหนักเพิ่ม และรู้สึกอ่อนแอตลอดเวลา มันยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของฉันด้วย ฉันแทบจำตัวเองในกระจกไม่ได้”
จนกระทั่งเดือนตุลาคม 2024 อาการของมาลียาห์ทรุดลง จนเธอตัดสินใจหยุดเคมีบำบัดทางเส้นเลือด “ฉันได้ยินว่ามีเด็กสาววัย 17 ปีอีกคนหนึ่งที่ได้รับการรักษาด้วยยา ALK และประสบความสำเร็จ ฉันถามหมอมะเร็งของฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเธอก็รีบให้ฉันลองใช้”
ยาที่เธอได้รับเป็นยากลุ่มยับยั้งโปรตีน ALK และภายในหนึ่งเดือน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
“ฉันได้รับโทรศัพท์จากหมอมะเร็งตอนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น” เธอเล่า “ฉันกลัวมากที่จะรับสาย แต่ก็รับสาย หมอบอกฉันว่า มะเร็งของฉันหายไปแล้ว ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นและขนลุกไปทั่วร่างกาย ฉันรู้เลยว่านี่คือปาฏิหาริย์”
แม้ว่าเธอจะหายจากโรคมะเร็งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่มาลียาห์ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย รวมถึงการตัดมดลูกออกทั้งหมด ซึ่งมีกำหนดผ่าตัดในเดือนมีนาคมเพื่อป้องกันโรคกลับมา
“สิ่งที่ยากที่สุดคือการรู้ว่าฉันจะไม่มีวันมีลูกได้ ความฝันนั้นถูกพรากไปจากฉัน แต่ฉันรู้สึกขอบคุณที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ เดือนที่แล้วฉันยังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย แต่พระเจ้าเปิดทางให้ฉัน”
ตลอดช่วงเวลาที่เธอต่อสู้กับโรค มาลียาห์ได้รับพลังใจจากครอบครัว ตอนนี้ เมื่อร่างกายเธอกลับมาแข็งแรง มาลียาห์มองชีวิตด้วยมุมมองใหม่
“การรอดชีวิตจากมะเร็งทำให้คุณเห็นชีวิตในมุมที่ต่างออกไป มันมีค่าเหลือเกิน มันคือของขวัญ”