ตำรวจออกหมายเรียกหนุ่มมือตบพยาบาลห้องไอซียู รพ.ระยอง มารับทราบความผิด 2 กระทง ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น และอีกข้อหาหนักทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โทษสูงกว่า หากไม่มาเจอหมายจับ ด้าน สสจ.ระยอง พร้อม ผอ.รพ. พาเพื่อนพยาบาลให้ข้อมูลผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เผยผู้เสียหายอาการหนักถึงขั้นแก้วหูอักเสบรุนแรง ใบหน้าฟกช้ำ ปวดคอ ต้องใช้เวลารักษา 1-2 สัปดาห์ แถมสภาพจิตใจแย่ วิตกกังวล เครียดจนนอนไม่หลับ โรงพยาบาลระยองเดินหน้าเอาผิดหนุ่มมือตบพยาบาลในห้องไอซียู
หลังไม่พอใจที่ตักเตือนเมียไม่ให้นำลูกเล็กเข้าไปเยี่ยมยายที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ติดเชื้อลงปอดในห้องไอซียู ทำให้แม่เด็กไปบอกผัว จนระงับอารมณ์โกรธไม่อยู่ลงมือทำร้ายพยาบาลขณะปฏิบัติหน้าที่ถึง 2 ครั้งซ้อนต่อหน้าเพื่อนพยาบาล กระทั่งมีคลิปเผยแพร่ในโซเชียล จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ อย่างกว้างขวางถึงพฤติกรรมญาติผู้ป่วยที่ไปใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ หลังเกิดเหตุผู้เสียหาย แจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด
ส่วนผู้ก่อเหตุเข้าให้การ ตำรวจเบื้องต้นอ้างว่าบันดาลโทสะที่พยาบาลพูดจาไม่ดี ความคืบหน้าคดีทำร้ายพยาบาล ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) วันที่ 19 ก.พ. นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ระยอง พร้อม นพ.ภูษิต ทรัพย์สมพล ผอ.รพ.ระยอง พาพยาบาลห้องผู้ป่วยฉุกเฉินหรือไอซียู ที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าให้ข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นนายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า
จากที่รับฟังเหตุการณ์และดูกล้องวงจรปิดกลุ่มญาติมากัน 5 คน มีเด็กเล็กรวมอยู่ด้วย พยาบาลเข้าไปเตือนญาติผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ A อาการรุนแรง เป็นการเข้าไปเตือนด้วยความหวังดี ไม่อยากให้นำเด็กอายุน้อยๆเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายเข้าไปในพื้นที่ห้องไอซียู เพราะถือเป็นพื้นที่ควบคุม ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปได้ ต้องได้รับการอนุญาตก่อน
นายธนกฤตกล่าวว่า ตอนเตือนครั้งแรกก็เข้าใจกัน และออกไป เมื่อถึงเวลาอนุญาตเยี่ยมอีกครั้ง ภรรยากลับเข้ามาพร้อมเด็กเล็กอีก พยาบาลยืนยันอีกครั้งว่าไม่อยากให้เด็กเข้ามา เพราะผู้ป่วยมีการติดเชื้อลงปอด เด็กเสี่ยงติดเชื้อ เสี่ยงเกิดการสูญเสียอีกได้ น้องพยาบาลพูดตามหลักวิชาการ พูดตรงไปตรงมา อาจจะสื่อสารคำพูดไม่เข้าใจกันแต่สาระสำคัญของการสื่อสารคืออาการรุนแรง ดังนั้น ฟังแล้วพยาบาลหวังดี เป็นห่วงเด็ก เพราะหากสุดท้ายเกิดเด็กติดเชื้อ อาการรุนแรงขึ้นมาก็จะมาตำหนิโรงพยาบาลอีกว่าไม่มีมาตรการดูแล สุดท้ายสามีเข้ามาสอบถามหาคนพูดกับภรรยาตัวเองและตบเข้าที่กกหู 2 ครั้ง พยายามใช้หลังมือตบอีก 1 ครั้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
เรื่องนี้ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อรับเป็นคดีไว้ก่อน อยู่ระหว่างรอผลการตรวจร่างกายไป ประกอบ เนื่องจากพยาบาลที่ถูกทำร้ายมีความเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น แก้วหูกระทบกระเทือน มีการอักเสบ และเรื่องการได้ยินมีความคลาด เคลื่อน ต้นคอยังปวดอยู่ เมื่อคืนก็นอนไม่หลับ มีอาการปวดหู เพราะถูกตบเข้ากกหูอย่างแรง ส่วนผู้ก่อเหตุยังไม่ติดต่อเข้ามา เรื่องนี้โทษมากกว่าทำร้ายร่างกาย เพราะพยาบาลถือเป็นเจ้าพนักงาน ถ้ามาขอโทษก็จะแยกส่วน เป็นการบรรเทาโทษ แต่ความผิดอาญาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ป่วยที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา โรงพยาบาลให้การดูแลอย่างเต็มที่ตามมาตรฐาน ไม่ได้ไปคิดโกรธเคืองอะไรกัน เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เรื่องนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข บอกว่าต้องดำเนินคดีเพราะทำให้หน่วยงานเสียหาย เป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี อาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ใครเข้ามาแล้วไม่พอใจก็ตบหมอตบพยาบาลแบบนี้ไม่ได้ เรื่องนี้ต้องทำให้เป็นคดีตัวอย่าง บุคลากรการแพทย์ทำงานหนักอยู่แล้ว อยากให้ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน หากไม่พอใจก็มีช่องทางร้องเรียนผ่านโรงพยาบาล หรือสาธารณสุขจังหวัด หรือร้องเรียนมาที่กระทรวง จะมีมาตรการลงโทษอยู่แล้ว อยากให้ใช้ขั้นตอนที่ถูกต้อง ไม่ใช่ลงไม้ลงมือ นายธนกฤต กล่าวว่า
นอกจากนี้ รมว.สาธารณสุขมีมาตรการให้บุคลากรการแพทย์ฝึกยุทธวิธีป้องกันตนเอง อาจเห็นพยาบาลลุกมาเตะก้านคอเพื่อป้องกันตัวเองก็ได้ ต้องให้เห็นว่าพวกเรามีความเข้มแข็ง และขอย้ำว่าสถานพยาบาลเป็นพื้นที่คุ้มครอง สงครามยังไม่สร้างความรุนแรงในโรงพยาบาล ด้าน นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวว่า อาการของพยาบาลที่บาดเจ็บจากการถูกทำร้ายต้องใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากมีอาการฟกช้ำบริเวณใบหน้า แต่ที่รุนแรงคือแก้วหูอักเสบต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหูคอจมูกประเมินและรักษาว่าใช้เวลานานแค่ไหน จากที่ได้พูดคุยด้วยได้รับการกระทบจิตใจพอสมควร ต้องให้จิตแพทย์เข้าไปดูแล ส่วนกำลังใจยังดีหลังๆเริ่มมีภาวะเครียด ทั้งนี้ หากผลการประเมินอาการบาดเจ็บของผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านแล้วจะนำมาสู่ผลในการดำเนินคดีต่อไปด้วย
ส่วนพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุ กล่าวว่า พยาบาลได้แจ้งกับญาติผู้ป่วยว่าไม่ควรพาเด็กเข้ามาในห้อง เนื่องจากคนไข้ติดเชื้ออาจทำให้เชื้อติดเด็กได้ ตอนนั้นสามีมีอาการปกติ พูดคุยหัวเราะ และพาเด็กออกไปตามปกติ กระทั่งพยาบาลที่โดนทำร้ายเข้ามาตักเตือนอีกรอบ ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตอนนี้พยาบาลที่โดนตบยังมีอาการเครียด วิตกกังวลถึงขั้นนอนไม่หลับ ขณะที่ นพ.ภูษิต ทรัพย์สมพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง กล่าวว่า ปกติห้องไอซียูจะห้ามผู้มีภูมิต้านทานต่ำเข้าไป เช่น คนสูงอายุ หรือเด็กเล็ก โดยเฉพาะกรณีโรคติดเชื้อ ผู้ป่วยรายนี้สภาพบุคลากรการแพทย์ที่จะเข้าไปทำการรักษาต้องใส่หน้ากาก N 95 สวมชุดป้องกันการติดเชื้อ ออกมาแล้วก็ถอด เพราะเป็นโรคที่ติดกันง่าย
ดังนั้น ถึงมีข้อกำหนดว่าโรคติดเชื้อไม่ควรจะให้คนมีภูมิต้านทานต่ำเข้าไป ด้าน พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีว่า เหตุการณ์ญาติคนไข้ทำร้ายพยาบาลขณะปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลระยอง ตอนนี้แพทย์ส่งผลตรวจบาดแผลพยาบาลที่ถูกทำร้ายมาให้พนักงานสอบสวนแล้วพร้อมกับได้ออกหมายเรียกให้ผู้ก่อเหตุคือนายสรรค์พงศ์ เพชรหนุน อายุ 42 ปี ทำงานโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง อาศัยอยู่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมีโทษมากกว่า นัดให้ ผู้ก่อเหตุมาพบพนักงานสอบสวนเวลา 09.00 น. วันที่ 21 ก.พ. หากไม่มาและออกหมายเรียกไปครบ 3 ครั้ง ตามกฎหมายแล้วก็จะขอศาลออกหมายจับต่อไป
