บุกจับกำนันหญิง พร้อมพวก ฉ้อโกง 41 ล้าน โผกอดแม่ร่ำไห้

วันนี้ 4 ก.พ. 2568 พ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผู้กำกับสภ.นครไทย พร้อมชุดสืบสวนชุดป้องกันฯและจราจร สภ.นครไทย พร้อมอาวุธครบมือเกือบ 30-40 นาย เปิดยุทธการ หักขาไก่ โดยสนธิกำลังตั้งแต่เช้ามืดที่ณ.หน้าสภ.นครไทย หลังจากเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2567 ปฎิบัติการ ฟ้าสางที่นาบัว จับกุมนายสมศักดิ์ นายกอบต.นาบัว ซึ่งเป็นประธานธนาคารหมู่บ้านน้ำทวนยอดเสียหาย 107 ล้านบาท แต่ครั้งนี้เป็นการจับกำนัน(หญิง)แหนบทองคำ ปี63 คือนางบุญลาม ซึ่งมีตำแหน่งประธานกองทุนหมู่บ้านนาไก่เขี่ย พร้อมกับสามี ซึ่งเป็นกรรมการก็ถูกจับกุมด้วยทั้งคู่

พ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผู้กำกับสภ.นครไทย สั่งตำรวจทุกนายเตรียมความและตรวจสอบอาวุธประจำกายหากมีการต่อสู้ขัดขวาง เพราะเคยเปิดปฎิบัติการจับกุมนายกฯ ครั้งที่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการจับกุมกำนันย้ำไม่ให้ใช้ความรุนแรง ได้แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุดตามหมายจับ 10 หมายของศาลแขวงนครไทย กระจายกำลังตำรวจไปจับกุมระแวกหมู่บ้านนาไก่เขี่ย ต.นาบัว.อ.นครไทย

โดยพุ่งเป้าจับกุมตามหมายจับเลขที่10/68 ศาลแขวงนครไทยลง วันที่ 3 ก.พ. 2568 โดยไม่ต้องมีหมายค้น เนื่องจากเป็นเจ้าบ้านซึ่งเป็นบ้านของแกนนำคือกำนันลาม หรือนางบุญลาม จากนั้นกำลังชุดอื่นได้กระจายกำลังไปตามจับสามารถจับกุมภายในบ้าน 9 คนและเดินทางมามอบตัวที่สภ.นครไทย 1 คน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่บุกไปบ้านประธานกองหมู่บ้านกำนันลามนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกชื่อ กำนันฯ แต่สามีกำนันซึ่งออกมาก่อน

จากนั้นกำนันลามก็ออกมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับ ซึ่งทั้งคู่อยู่ในชุดลำลองกางเกงขาสั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหมายจับทำให้กำนันนิ่งไปพักหนึ่ง จากนั้นได้รู้ตัวว่าจะต้องถูกจองจำ จึงเข้าโผกกอดแม่และร่ำไห้ถึงชะตากรรม โดยไม่มีอาการโวยวายต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวเพียงว่าผู้กำกับสภ.นครไทยทำไปตามหน้าที่ จากนั้นกำนันและสามีได้ขึ้นรถตู้ของตำรวจไปยังห้องสืบสวนสภ.ไทยทันที

ส่วนอีก 9 หมาย เป็นกรรมการกองทุนหมู่บ้านโดยผู้ต้องหาที่ 1 มีตำแหน่งเป็นประธานกองทุนฯ ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ เป็นคณะกรรมการมีความผิดข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยการโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปในการกู้ยืมเงิน และจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่กฏหมายระบุไว้ ซึ่งปฏิบัติการวันนี้มีผู้เสียหายแจ้งความไว้จำนวน 140 คนมูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท