ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เปิดเกณฑ์พิจารณาบัตรคนจนรอบใหม่ ใครได้บ้าง

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2568 โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจนรอบใหม่ เนื่องจากขณะนี้กำลังจะครบ 2 ปี หลังจากรอบล่าสุดที่เปิดลงทะเบียน เมื่อปลายปี 2565 (5 ก.ย.-31 ต.ค.) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการทบทวนคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการใหม่

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เปิดเกณฑ์พิจารณาบัตรคนจนรอบใหม่ ใครได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจนรอบใหม่ ในช่วงเดือน มี.ค. 2568 หรือเดือน เม.ย. 2568 ซึ่งจะต้องผ่านการอนุมัติของ ครม. ก่อน

สำหรับการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ถือเป็นการทบทวนผู้มีสิทธิ์คนเก่า ซึ่งจะทำทุกๆ 2 ปี เพราะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม บางคนอาจมีคุณสมบัติหลุดจากเกณฑ์ไปแล้ว หรือบางคนไม่ได้รับสิทธิ์ในรอบที่แล้ว อาจมีคุณสมบัติผ่านในรอบนี้ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ หรือคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนรอบใหม่หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม

หลักเกณฑ์คัดคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม

1. ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว

2. ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย

3. อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

4. รายได้ต่อปีของบุคคล และรายได้เฉลี่ยของครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน/ปี รวมถึงทรัพย์สินทางการเงิน อย่าง เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ของภาครัฐ ต้องไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคนต่อปีด้วยเช่นเดียวกัน

5. ไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้บ้าน ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และวงเงินกู้รถไม่เกิน 1 ล้านบาท

6.ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข

7. กรณีไม่มีครอบครัว ห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตร.ม. และที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรไม่เกิน 1 ไร่ และใช้ในการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ และมีบ้านพร้อมที่ดิน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตร.ว. และรวมกันหมดแล้วพื้นที่การเกษตรไม่เกิน 10 ไร่

8. ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.

9. ไม่มีบัตรเครดิต

ส่วนการจ่ายสวัสดิการ เบื้องต้นยังเป็นไปตามเดิม ซึ่งมีดังนี้

• วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
• วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน
• วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน
• มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
• มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน