สองตายายทุกข์หนัก ถูกหลอกเซ็นชื่ออ้างค้ำประกัน รู้อีกทีเป็นหนี้ 30 ล้าน ไม่อยากอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก น.ส.วาสนา สายแก้ว ชาวบ้าน ม.13 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ว่าสองตายายถูกหลอกเอาโฉนดที่ดินไปค้ำประกันและขายฝาก จำนวนเงิน 30 ล้านบาท หลังทราบเรื่องสองตายายกินไม่ได้นอนไม่หลับ แล้วป่วยมีโรคประจำตัว แถมยังวางแผนที่จะใช้ยาคลุกข้าวให้สามีกินและจะกินยาตามกันไป
หลังรับทราบเรื่อง ผู้สื่อข่างจึงได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 65 หมู่ 13 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้พบกับคุณตาประเสริฐ พุทธา อายุ 83 ปี และคุณยายบุญธรรม วงษ์เสนา อายุ 67 ปี
ยายบุญธรรม เล่าว่า สามีเครียดจนเสียความทรงจำไปแล้ว ตนเองป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเส้นเลือด และโรคเครียด เนื่องจากมีเจ้าของร้านทองมาบอกว่าสามีและตนเองได้นำโฉนดที่ดินไปขายฝากมูลค่า 30 ล้านบาท ขอให้รีบย้ายออกจากบ้านหลังนี้โดยเร็ว
จากนั้นได้สอบถามตาประเสริฐ เล่าให้ฟังว่าเมื่อปลายปี 2561 ได้รู้จักกับนายโชคชัย (ขอสงวนนามสกุล) ช่วงนั้นรู้จักนายโชคชัยมาระยะหนึ่ง นายโชคชัยหลอกเอาที่ดินของตา 7 แปลง จำนวน 18 ไร่ โดยบอกว่าเป็นการเซ็นค้ำประกันและให้เงินมา 20,000 บาท และ 30,000 บาท ซึ่งให้เซ็นที่สำนักงานที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี หลังจากนั้นไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย
ต่อมา นายโชคชัยได้หลอกเอาโฉนดที่ดินของตนเอง 4 แปลง จำนวน 12 ไร่ รวมทั้งหมด 30 ไร่ เซ็นค้ำประกันอีก ตนเองและสามีไม่รู้หนังสือมีความรู้แค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากรู้ว่าถูกหลอกเอาโฉนดที่ดินไปขายฝากให้กับร้านทองแห่งหนึ่ง มียอดเงินทั้งหมด 30 ล้านบาท ได้ไปแจ้งความกับ สภ.เมืองปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2567 วันนี้รู้สึกดีใจระดับหนึ่งที่ได้ร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม และขอยืนยันว่าตนเองและสามีถูกหลอกให้เซ็นเอกสารจริง ๆ