วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 มีรายงานความคืบหน้าโครงการ คนละครึ่งพลัส โดยรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่ง เริ่มเปิดให้ใช้สิทธิแล้วตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นมา ขณะที่ผู้ที่ลงทะเบียนไม่ทันในเฟสแรกยังมีโอกาสลุ้นเข้าร่วมใน เฟส 2 ซึ่งจะเปิดลงทะเบียนเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้
โดยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถเสนอรายละเอียดของโครงการ คนละครึ่งพลัส เฟส 2 เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ แม้จะมีการยุบสภาก่อนกำหนดในเดือนเดียวกัน ก็ยังสามารถนำเสนอเข้าสู่ ครม. ได้ทัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาวงเงินที่จะใช้ดำเนินโครงการรอบใหม่
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 23.50 น. ระบุว่า มีร้านค้าเข้าร่วมแล้ว 968,692 ร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิสะสม 1,652,014 คน ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 54,132 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ที่พลาดการลงทะเบียนในเฟสแรกยังสามารถสมัครเข้าร่วม เฟส 2 ซึ่งคาดว่าจะใช้หลักเกณฑ์ใกล้เคียงเดิม โดยผู้ได้รับสิทธิจะได้รับวงเงิน 4,000 บาท เงื่อนไขเบื้องต้น ได้แก่
1. ต้องมีสัญชาติไทย อายุ 16 ปีขึ้นไป
2. มีบัตรประจำตัวประชาชน
3. ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568
4. ไม่เคยถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกคืนในโครงการคนละครึ่งทุกระยะที่ผ่านมา
สำหรับการใช้สิทธิ ประชาชนต้องชำระเงินผ่าน G Wallet กับร้านค้าที่ร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2568 ในช่วงเวลา 06.00 – 23.00 น. พร้อมข้อกำชับว่าต้องไม่กระทำการใดที่อาจสร้างความเข้าใจผิดหรือเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการของรัฐ
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 5/2568 ซึ่งมีมติเห็นชอบมาตรการสำคัญเพื่อยกระดับความยั่งยืนให้ร้านค้าที่เข้าร่วมระบบ โดยเห็นชอบให้ เชื่อมร้านค้าทั้งหมดในคนละครึ่งพลัส เข้ากับระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาผู้ถือบัตรสวัสดิการที่มีร้านค้าให้เลือกใช้น้อยเกินไป เนื่องจากร้านค้าที่ผ่านระบบคนละครึ่งพลัสมีมาตรฐานสูงและกระจายทั่วประเทศ การเชื่อมระบบจะช่วยให้ร้านค้าสามารถขายสินค้าให้ผู้ใช้บัตรสวัสดิการได้ทันที เพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้สวัสดิการเข้าถึงง่ายขึ้น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพัฒนาระบบรองรับเพิ่มเติม
ปัจจุบันโครงการคนละครึ่งพลัสมีร้านค้าเข้าร่วมประมาณ 980,000 ร้านค้า ซึ่งเมื่อเชื่อมโยงกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะทำให้ร้านค้าเหล่านี้สามารถขายสินค้าได้ทั้งสองระบบ ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่รัฐบาลตั้งเป้าช่วยเหลือร้านค้าให้มีรายได้ยั่งยืน ควบคู่ไปกับการเพิ่มโอกาสการใช้สิทธิของผู้ถือบัตรสวัสดิการ
