ชีวิตพลิกผัน! หนุ่ม 27 คุณพ่อลูก 3 เผยป่วยเป็นไตวาย ตั้งแต่อายุยังน้อย ขอเตือนเป็นอุทาหรณ์ เป็นเพราะชอบกินสิ่งเหล่านี้ นิยมมากในหมู่วัยรุ่น
เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 67 กลายเป็นอุทาหรณ์เตือนใจเหล่าคนรักการกินทั้งหลาย เมื่อ สื่อต่างประเทศ รายงาน คุณพ่อลูก 3 ชาวเวียดนาม ป่วยเป็นโรคไตวายระยะ 2 ในวัย 27 ปีเท่านั้น
นาย ฮว่าง วัน ทัน (Hoang Van Tan) ชายชาวเวียดนาม อายุ 27 ปี อาศัยใน ฮานอย ประเทศเวียดนาม ออกมาแชร์เรื่องราวชีวิตตนเอง เพื่อเตือนใจหนุ่มสาวที่รักการกิน ระวังอย่าดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้มากจนเกินไป
นายทันเล่าว่า เขามีนิสัยชอบดื่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมเป็นชีวิตจิตใจ แต่การดื่มน้ำอัดลมไม่เพียงทำให้อ้วนและเบาหวาน แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อตับและไตวายอีกด้วย
นายทันพบว่าตนเองป่วยเป็นโรคไตในวัย 27 ปี โดยมีสัญญาณเตือนง่าย ๆ ดังนี้
- ในเดือนสิงหาคม 2559 เขาเริ่มมีอาการปวดศีรษะอย่างต่อเนื่อง เขาจึงซื้อยาแก้ปวดมากิน อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวยังคงมีอยู่ นี่คือสัญญาณเล็ก ๆ ของการเจ็บป่วย
- ในเดือนมีนาคม 2560 เขาไปตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด ปัสสาวะ และอัลตราซาวนด์ จนทราบว่า ตนเองป่วย ภาวะไตวายระยะที่ 2 เมื่ออายุเพียง 27 ปี
นายทันเผยกับสื่อว่า “ก่อนที่ผมจะป่วย ผมเป็นคนมีความสุขมาก ๆ ทำกิจกรรมอย่างแข็งขัน ผมรู้ว่าเป็นโรคนี้ตอนที่ผมเพิ่งแต่งงานได้ 2 ปี ตอนนั้นทุกอย่างแทบจะพังทลาย”
เขาเล่าสิ่งที่แพทย์อธิบาย สาเหตุของภาวะไตวาย ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงเป็นเวลานาน ซึ่งนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนของโรคไตในที่สุด หลายคนมักมองข้ามเรื่องความดันโลหิตสูง แต่ความดันโลหิตสามารถนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงมากมายได้ในอนาคต
จากเรื่องราวของเขา เขาขอแนะนำให้ทุกคนใส่ใจควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับคงที่
ในช่วง 3 ปีแรกหลังจากพบว่าไตวาย เขาปรับการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นและรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างไรก็ตาม ต่อมาเขาละเลยการรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต และไม่ค่อยได้ไปตรวจสุขภาพเป็นระยะ
นั่นทำให้อาการของเขาค่อย ๆ แย่ลง กระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2567 นายทันจึงต้องเข้ารับการฟอกไตและฟอกเลือดสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
“การรักษาไตวายมีค่าใช้จ่ายที่แพงมาก ผมต้องมาทำเดือนละ 12 ครั้ง เปลืองเงินและเวลามาก” นายทันกล่าว
ผู้ป่วยล้างไตต้องให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหารเป็นอย่างมาก
ผู้ป่วยต้องรับประทานอาหารตามแพทย์สั่ง รับประทานอาหารอ่อน ๆ เพราะการกินเครื่องเทศมากจะทำให้ไตเสียหาย ต้องจำกัดการบริโภคอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย, ขนุน, ส้ม, ส้มเขียวหวาน, ส้มโอเนื้อแดง เพื่อให้สามารถรักษาไตไว้ให้ได้นานที่สุด
ขณะเดียวกันควรดื่มน้ำตามปริมาณที่แพทย์แนะนำเพราะผู้ที่เป็นโรคไตจะไม่สามารถขับถ่ายของเหลวได้ตามปกติเช่นเดิม ดังนั้นการดื่มน้ำมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำ ความดันโลหิตไม่คงที่ หัวใจล้มเหลวได้
นอกจากนี้การรักษาอย่างต่อเนื่องตามแผนการรักษาของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญมาก “ผู้ป่วยจำนวนมากที่มีภาวะไตวายระยะที่ 1 และ 2 เนื่องจากความเชื่อในการใช้ยาแผนโบราณ จึงต้องเข้ารับการฟอกไตฉุกเฉิน” เขากล่าว
คำเตือนเรื่องน้ำประเภทหนึ่งซึ่งนิยมในหมู่วัยรุ่นที่อาจทำให้ป่วยไตวาย
ภาวะไตวายเรื้อรังนั้นมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดได้ ทั้งพันธุกรรม ปัจจัยทางกายภาพ โดยเฉพาะมีสาเหตุหนึ่งที่นายทันเน้นย้ำว่าคนหนุ่มสาวควรใส่ใจ คือ การดื่มน้ำสะอาดมากๆ
เครื่องดื่มน้ำอัดลมนั้นไม่เพียงแต่ทำให้เกิดโรคอ้วนและโรคเบาหวานเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงของตับและไตวายอีกด้วย
“เมื่อก่อนผมดื่มน้ำอัดลมเยอะมาก ตอนนั้นไม่รู้ว่าน้ำอัดลมเป็นอันตรายต่อไต ตอนนี้ผมแนะนำให้เลิกดื่มเพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพจริงๆ“ นายทันกล่าว
นายทันยังเล่าด้วยว่าสัญญาณของไตวายมักจะสังเกตได้ยาก และโรคนี้ก็ยังเกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ เมื่อตรวจพบ ผู้ป่วยจำนวนมากก็เข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว
เขาเสริมอีกว่า มีสัญญาณหลายอย่างที่สามารถเตือนผู้ป่วยไตวายได้ ได้แก่
- อาการคั่งของของเหลวและอาการบวมน้ำที่แขนขาและใบหน้า
- ปัสสาวะมีฟองเหมือนฟองสบู่
- ปวดบริเวณเอวบ่อย ๆ
- ผื่นคันตามผิวหนังบ่อย ๆ
- กลิ่นปาก
- ความอ่อนแอ-เหนื่อยล้าทางร่างกาย
หากคุณมีสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้น การตรวจสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่มีโรคก็ถือว่าดีมาก แต่ถ้าโชคร้ายป่วยเป็นโรค ก็สามารถวางแผนการรักษาได้ทันท่วงที เพื่อไม่ให้โรคดำเนินไป จนสายเกินไป
หวังว่าการแบ่งปันข้างต้นของคุณทัน ผู้ป่วยไตวายตั้งแต่อายุยังน้อย จะเป็นบทเรียนให้ทุกคนได้รู้วิธีและใส่ใจสุขภาพ อีกทั้งยังตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง
ที่มา : docnhanh