จากกรณีที่เกิดเหตุสะเทือนใจในชุมชนในตำบลมาบข่า จังหวัดระยอง กำลังเผชิญความสะเทือนใจอย่างหนัก หลังจาก เด็กชายอายุ 2 ขวบ 10 เดือน หายตัวไปจากพื้นที่พักอาศัย ก่อนถูกพบเป็นร่างไร้วิญญาณในสภาพบอบช้ำอย่างรุนแรง
จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า น้องอาศัยอยู่กับคุณพ่อ หลังพ่อแม่แยกทางกัน วันเกิดเหตุ นายเอ (นามสมมติ) ผู้เป็นพ่อ ซึ่งมีอาชีพกรีดยาง ได้ฝากลูกไว้กับพนักงานเสิร์ฟของร้านอาหารแห่งหนึ่งแล้วไปทำธุระประมาณครึ่งชั่วโมง

เมื่อเวลาประมาณ 17:00 น. ของวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 นายเอกลับมารับลูก แต่ไม่พบน้อง จึงเริ่มออกตามหาเรื่อยมา จนถึงช่วงเที่ยงคืนแต่ก็ยังไร้วี่แวว กระทั่งเช้าวันที่ 14 พฤศจิกายน แม่ของน้องทราบเรื่องจากญาติฝ่ายพ่อ จึงเร่งขอความช่วยเหลือชาวบ้านให้ช่วยตามหาอีกแรง แม้จะระดมกำลังค้นหาทั่วพื้นที่ แต่ก็ยังไม่พบตัวเด็ก
จนกระทั่งช่วง 16:00 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 นายเอเดินออกตามหาอีกครั้ง และพบร่างของน้องในหนองน้ำริมถนน ห่างจากบ้านเพียง 500 เมตร โดยพบในสภาพนอนคว่ำหน้า ไม่สวมเสื้อผ้า กะโหลกเปิด ผมหลุดเป็นกระจุก มีรอยคล้ายถูกกัดแทะที่ขา หูทั้งสองข้างขาด และหน้าท้องมีรอยถลอก หลังพบร่าง นายเออุ้มลูกกลับบ้านเพื่อนำไปอาบน้ำ แต่งตัว ก่อนจะแจ้งตำรวจและกู้ภัยมาที่เกิดเหตุ


ล่าสุด แพทย์นิติเวช ของ รพ.ระยอง ได้ชันสูตรร่างของเด็กชาย โดยเบื้องต้นได้แจ้งไปยังพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีว่า พบบาดแผลตามร่างกายเด็ก 60 จุด ร่องรอยบาดแผลลักษณะถูกกัดและสะบัด เกิดจากสัตว์จำเพาะมีเขี้ยว ซึ่งเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นถูกหมากัด สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตเกิดจากเส้นเลือดใหญ่ที่ต้นขาซ้ายขาดทำให้เสียเลือดมาก ซึ่งบาดแผลที่เกิดขึ้น เกิดได้ทั้งก่อนเสียชีวิต และหลังเสียชีวิต
ด้านชุดสืบสวนเปิดเผยว่ากล้องวงจรปิดในคืนก่อนพบร่าง บันทึกภาพเด็กชายเดินออกมาคนเดียว ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญประกอบการสอบสวน ขณะนี้ตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อสรุปว่าเด็กเสียชีวิตจากสาเหตุใดกันแน่


