“ผู้พันเบิร์ด” เปิดแผน เหลี่ยม “กัมพูชา” อ่านจบถึงบางอ้อทันที

“ผู้พันเบิร์ด” เตือนความเสี่ยงจากความเคลื่อนไหวของกัมพูชาที่อาจพยายามยั่วยุให้เกิดการปะทะ หวังลากไทยเข้าสู่เวทีศาลโลก พร้อมย้ำไทยปฏิบัติตามคำตัดสินเดิมทุกประการ

พล.ต.วันชนะ สวัสดี หรือ ผู้พันเบิร์ด รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก Wanchana Sawasdee ระบุว่า

ความต้องการของ ขแมร์

คือ ต้องการให้การหารือในระดับ JBC ล้มเหลว มีการใช้กำลังทหาร หรือ มีการ ปะทะ ก่อน คุย JBC เพื่อขยายไปศาลโลก

ความเป็นไปได้-ผลกระทบ

\"ผู้พันเบิร์ด\" เปิดแผน เหลี่ยม \"กัมพูชา\" อ่านจบถึงบางอ้อทันที

ก็มีความเป็นไปได้สูง โดยฝ่ายกัมพูชาก็จะอ้างว่าเขาถูกโจมตีก่อน (ทั้ง ๆ ที่เขาโจมตีไทยเราก่อน) เสร็จแล้ว ก็จะไปอ้างต่อศาลโลก แต่จะมีความต่างออกไป นั่นคือมีการรบปะทะ ซึ่งอาจไม่ใช่แค่ในพื้นที่ช่องบกช่องเดียว แต่รวมไปถึงปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควายด้วย ส่วนพื้นที่พระวิหาร คาดว่าจะไม่มีการปะทะ เพราะในปัจจุบันกัมพูชาถือครองตัวปราสาท ตามคำตัดสินของศาลโลก เมื่อปี 2556 (ร้องเมื่อปี 2554 ซึ่งเกี่ยวโยงกับคำตัดสินเมื่อปี 2505 ไทยเราเลยต้องรับอำนาจศาล ตามที่อธิบายมาแล้ว) และในพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ไทยเราก็ไม่ได้นำกำลังเข้าไป ดังนั้น ในพื้นที่นี้ กัมพูชาอ้างเหตุหาความชอบธรรมยาก เพราะเราทำตามกติกา ตามคำตัดสินศาลโลกทุกประการ

\"ผู้พันเบิร์ด\" เปิดแผน เหลี่ยม \"กัมพูชา\" อ่านจบถึงบางอ้อทันที

ส่วนมีการปะทะกันก่อน JBC ก็คือปรากฏการณ์ความเสี่ยงที่เหนือความคาดหมาย (Black Swan) สำหรับฝ่ายการเมือง (แต่ไม่เหนือความคาดหมายสำหรับฝ่ายทหาร) หากสมมติว่า กัมพูชาใช้การกำหนดวันประชุม JBC เป็นตัวประวิงเวลา เบี่ยงเบนความสนใจ ในขณะเดียวกันก็เตรียมความพร้อมเพื่อโจมตีฝ่ายไทย ในขณะที่เราไม่พร้อม (ในมุมของกัมพูชา) แล้วก็ดึงเข้าสู่ศาลโลก

จะเห็นได้ว่า ฝ่ายกัมพูชาพึงประสงค์ที่สุด คือพยายามทำให้เรื่องนี้ ซึ่งควรจบได้ในระดับทวิภาคี ถูกขยายตัวออกไป โดยดึงตัวแสดงอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยว ส่วนหนึ่งก็เพื่อหวังดินแดนที่จะอ้างสิทธิ์ และอีกส่วนหนึ่ง ก็เพื่อดึงกระแสชาตินิยม และเรียกความนิยมให้กับกลุ่มการเมืองของตนแบบที่เคยทำมาตลอด

ยืนยันเหมือนเดิมว่า มีปัญหาตรงไหนก็คุยกันตรงนั้น ศาลโลกไม่เกี่ยว

ปิดจบด้วย ทหารไทยและประชาชนไทยพร้อมมาก