หมอเจอเคสครอบครัว 3 คน ป่วยมะเร็งทางเดินอาหารติดๆ กัน ต้นเหตุจาก “ความประหยัด” ที่มากเกินไป
นพ.เหลียว จี้ติ่ง เผยเคสจริงในคลินิก ครอบครัวหนึ่งมีสมาชิก 3 คนป่วยเป็นมะเร็งติดๆ กัน! สาเหตุเกิดจาก พฤติกรรม “ประหยัด” ในการกินข้าว ของทั้งบ้าน
นพ.เหลียว จี้ติ่ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยาและเนื้องอกวิทยา โรงพยาบาลฉางเกิง ไต้หวัน ได้เผยแพร่คลิปผ่านช่อง YouTube ในหัวข้อ “มะเร็งเกิดจาก ‘ความประหยัด’?! วิธีประหยัดเหล่านี้ เสี่ยงเข้าใกล้มะเร็งมากขึ้น!”
โดยเล่าว่าเคยพบครอบครัวหนึ่ง ซึ่งสมาชิกทั้ง 3 คนต่างก็เป็นมะเร็งทางเดินอาหารทั้งหมด พอสอบถามพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน จึงพบว่าสาเหตุมาจากการ กินของเหลือและอาหารค้างคืนเป็นประจำ จนส่งผลต่อสุขภาพ
วิธี “ประหยัดผิดๆ” ที่อาจพาไปหามะเร็ง
นพ.เหลียว เผยว่า ตลอด 30 ปีของการเป็นแพทย์ พบผู้ป่วยหลายรายที่ “ประหยัดผิดที่” จนต้องจ่ายด้วยชีวิต เช่น
-
ซื้อผักผลไม้ลดราคาแม้ไม่สด
-
ฝานเฉพาะส่วนที่ขึ้นราแล้วกินต่อ
-
กินอาหารที่หมดอายุไปแล้วไม่กี่วัน
พฤติกรรมเหล่านี้เสี่ยงทำให้ได้รับ สารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) จากเชื้อรา ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งตับ นอกจากนี้ อาหารที่หมดอายุยังมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรค ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารอักเสบ และอาจกลายเป็น “แหล่งเพาะเชื้อมะเร็ง” ได้ในระยะยาว
ของค้างตู้เย็นก็ไม่ปลอดภัย
-
หลายคน “ประหยัดเวลา ประหยัดเงิน” ด้วยการกินอาหารแปรรูปหรือกับข้าวเหลือค้างคืน
-
แต่อาหารแปรรูปมัก มีน้ำตาลสูง เกลือสูง และสารปรุงแต่ง
-
ผักใบเขียวที่ค้างคืนจะเกิด ไนโตรซามีน (Nitrosamine) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งทางเดินอาหาร
-
ตู้เย็นก็ไม่สามารถ “หยุดเวลา” ความสดใหม่ไว้ได้
พฤติกรรมในครัวก็มีผล
บางคนเพื่อประหยัดไฟ หลังผัดหรือทอดอาหารเสร็จแล้วก็รีบปิดเครื่องดูดควันทันที แต่ความจริง “ควันน้ำมัน” ยังคงลอยอยู่ในครัว และมี สารพิษปริมาณมาก หากสูดดมนานๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด
แนะนำให้เปิดเครื่องดูดควันล่วงหน้า และปล่อยให้ทำงานต่ออีก 3-5 นาทีหลังทำอาหารเสร็จ
อย่าประหยัดค่าตรวจสุขภาพจนเกินไป
นพ.เหลียวเตือนว่า คนจำนวนไม่น้อย “เสียดายเงิน” ไม่ยอมตรวจสุขภาพประจำปี แต่การประหยัดแค่ไม่กี่พันบาท อาจทำให้พลาดช่วงเวลาทองของการรักษา สุดท้ายอาจต้องจ่ายค่ารักษามะเร็งหลักแสนถึงหลักล้านแทน