โบ อนัญญา ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4 ตั้งแต่ 25 เล่าวิธีต่อสู้ และรับมือ เผยอาการก่อนตรวจพบ

โบ อนัญญา ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4 ตั้งแต่ 25 เล่าวิธีต่อสู้ และรับมือ เผยอาการก่อนตรวจพบ ชี้คนรอบข้างสำคัญมาก แนะตระหนักรู้คุณค่าของการใช้เวลา

เป็นเรื่องราวแรงบันดาลใจดีๆ สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง โดยยูทูบช่อง laohaiFrung ของ หมอฟรัง นรีกุล นักแสดงสาว พูดคุยกับ คุณโบ อนัญญา ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4

คุณโบ เล่าว่า มีอาการเริ่มต้น ตอนอายุ 25 ปี ย่าง 26 ปี เพิ่งเรียนจบ แล้วทำงานmarketingที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ก่อนลาออกมาช่วยงานที่บ้าน และก็เรียนไปด้วย โดยทำงาน 5 วัน แล้วก็เรียน 2 วัน ไม่ค่อยได้พักผ่อน ต่อมาเริ่มมีอาการไออย่างหนักและต่อเนื่องทั้งวัน เป็นแบบไอมีเสมหะ แต่ยุ่งเลยไม่ได้ไปหาหมอ ได้แต่ไปซื้อยามากินเองแต่ยังไม่หาย

แต่หลังสอบเสร็จเลยไปหาหมอ ขอ X-RAY แล้วพบว่าเป็นเงาที่ปอด หมอเลยสงสัยว่าเป็นวัณโรค หรือ เป็นมะเร็ง โดยตอนนั้นไม่มีอาการอื่นๆเลย น้ำหนักไม่ลด ส่วนที่บ้านไม่มีใครเป็นมะเร็งปอดเลย แต่มีมะเร็งอื่นๆ โดยการใช้ชีวิตที่ผ่านมาไม่สูบบุหรี่ แต่มีดื่มเหล้าบ้าง ตอนนั้นหมอเจาะเลือดไปตรวจ แล้วครอบครัวตัดสินใจตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ก่อนบพว่าเป็นมะเร็ง

โบ เล่าต่อว่า ครั้งแรกที่ได้ยินทั้งตกใจ และงง โดยตำแหน่งอยู่ใกล้ปอด ลึกเกือบหัวใจ จึงเข้าทำการรักษาด้วยการผ่าตัด แต่ว่าชีวิตไม่ได้จบแค่นั้น เมื่อพบซีสต์อยู่ตรงขั้วหัวใจ ซึ่งไม่สามารถผ่าตัดได้ และเมื่อผ่านไป 3-4 เดือนเชื้อกระจาย ไปไกลกว่าระยะเริ่มต้น และยังกลับมาไอ ทำให้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4

“ความรู้สึกตอนนั้น ทั้งเสียใจ และตกใจ โดยการให้คีโมครั้งแรกเกิดช็อก ทำให้ดิ่งจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า โดยการรักษาก็ปรับสูตรยาไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้ความพยายามหลายอย่างมากๆ โชคดีที่คนรอบข้างดี เวลาจมดิ่งช่วยดึงขึ้นมา รวมถึงปรึกษาจิตแพทย์ด้วย ฝึกสมาธิ เล่นโยคะ หากิจกรรมที่ชอบทำจะได้ไม่โฟกัสว่าเราเป็นมะเร็ง”

คุณโบ เล่าอีกว่า การรักษาที่ผ่านมาเปลี่ยนยามา 6 สูตรแล้ว และตอนนี้อาการดีขึ้นมาก หลังต่อสู้มา 3 ปี 5 เดือน มะเร็งเล็กลงทุกจุด เป็นความรู้สึกที่เอ่อล้นมาก ซึ่งตลอดระยะเวลาการรักษาเราต้องหาเป้าหมายว่าสู้เพื่ออะไร ถ้าไม่รู้ว่าสู้เพื่ออะไรจะทำให้ยอมแพ้ง่ายๆ

เพราะโรคที่เป็นผลกระทบข้างเคียงเยอะมาก บางครั้งก็งอแง แต่โชคดีที่อย่างน้อยหมอยังไม่ยอมแพ้ หมอบอกว่าบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ 0% หรือ 100% หมอบอกว่าคิดไปแล้วได้อะไร

“โบ สู้เพราะอยากอยู่กับคนที่เรารัก เป้าหมายของแต่ละคนไม่ต้องมีอะไรที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ ซึ่งโชคดีมากที่คนรอบข้างดี อยากบอกว่าผู้ป่วยมะเร็งอยากได้กำลังใจในรูปแบบการรับฟัง ซึ่งคนรอบข้างโบไม่เคยบอกให้ทำอะไรที่เป็นการบังคับ เขาเคารพการตัดสินใจของเราและรอยู่ข้างๆ ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้เหมือนสู้อยู่คนเดียว รวมทั้งแฟนเมื่อรู้ว่าป่วยก็ขอแต่งงานเลย ทำให้ได้อยู่ด้วยกัน”

ทั้งนี้อยากฝากบอกให้เห็นคุณค่าของการใช้เวลา ระยะเวลาอาจไม่สำคัญเท่าคุณค่าของการใช้เวลา เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันนี้จะอยู่ หรือ ตายตอนไหน รู้แค่ว่าวันนี้เราอยู่ตรงนี้ ถ้ามัวคิดที่ทำให้ตัวเราไม่มีความสุข มันจะเสียเวลามีความสุขในปัจจุบันไป

 

ขอบคุณข้อมูลจากช่อง : laohaiFrung