หนุ่มถูกหลอกทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประเทศเพื่อนบ้าน สำนึกผิดขอบวชให้ผู้เสียหาย เผยไปอยู่ 8 เดือน ถูกทำร้ายร่างกาย จนต้องร้องขอความช่วยเหลือกลับไทย
วันที่ 2 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี ได้รับแจ้งจาก ดร.พิมไหม ศักดิพัตโภคิน ประธานมูลนิธิดาวเหนือ ว่า มีนายต้นไม้ อายุ 29 ปี ที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน นานถึง 8 เดือน จนพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือกลับมาได้ อยากบวชพระเพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับผู้ที่ถูกหลอกโอนเงิน ซึ่งบางรายถึงขั้นฆ่าตัวตาย โดยมีการอุปสมบทที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ซึ่งมีพ่อแม่ของนายเจตวัจน์เข้าร่วมพิธีด้วย
นายต้นไม้ เปิดเผยว่า ตนหางานทางโซเซียลมีเดีย โดยนายจ้างอ้างว่าให้ทำงานโทรตามหาพัสดุลูกค้า ตนไม่รู้มาก่อนว่าเป็นการทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตอนแรกได้อยู่ฝ่ายประกัน ต่อมาถูกย้ายไปอยู่ฝ่ายฟีลแฟน ซึ่งจะมีคนคอยส่งข้อมูลลูกค้ามาให้ และมีการบังคับให้โทรหาลูกค้าให้ทำยอดให้ได้ตามเป้าหมาย ถ้าทำไม่ได้หรือทำผิดกฎก็จะถูกทุบตีทำร้ายร่างกาย
นายต้นไม้ กล่าวต่อว่า วันหนึ่งต้องทำยอดให้ได้ยอด 3 สายขึ้นไป แต่ถ้าเป็นฝ่ายฟีลแฟนจะต้องทำยอดให้ได้วันละ7-10 คน ถ้าทำไม่ได้ก็จะโดนหักเงิน วันนี้ตนจะมาบวชเพราะสำนึกผิดกับเหยื่อที่ถูกหลอกเงินไป ทราบว่าผู้เสียหายบางคนต้องป่วยเป็นโรคซึมเศร้า บางคนหมดสติเข้าโรงพยาบาล หรือทำร้ายตัวเองจนเสียชีวิต
นายต้นไม้ กล่าวอีกว่า หลังจากได้เห็นข่าวก็รู้สึกสำนึกผิดที่มีส่วนร่วมที่ทำให้เขาเป็นแบบนั้น ฝากถึงผู้เสียหายที่สูญเงินไป ขอให้อโหสิกรรมให้ด้วย ตนไม่มีเจตนาที่จะทำ ถ้าไม่ทำก็จะโดนทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนได้หนีกลับมาประเทศไทยได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว
ด้าน ดร.พิมไหม กล่าวว่า น้องต้นไม้ถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน เกิดการไม่สบายใจในงานที่ทำและสำนึกผิด อยากจะกลับมาประเทศไทย จึงติดต่อผ่านผู้สื่อข่าวทางโซเซียลมีเดียจนได้กลับมาประเทศไทย และติดต่อมาหาตน ซึ่งตนได้พาไปมอบตัวกับตำรวจแล้ว แต่ไม่ได้ถูกดำเนินคดี เนื่องจากถูกหลอกไปทำงาน
ดร.พิมไหม กล่าวต่อว่า วันนี้น้องต้นไม้อยากให้ตนเป็นเจ้าภาพบวชให้ เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกโอนเงินไปและทำร้ายตนเองจนถึงแก่ชีวิต ตนคิดว่าเป็นเรื่องดีที่น้องต้นไม้รู้สึกผิดกลับใจได้ ผู้เสียหายที่จะให้ช่วยเหลือเรื่องถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สามารถแจ้งมาได้ที่เพจของตน ยินดีให้ความช่วยเหลือ