จากที่ฟ้องร้องกันมาสักพัก สำหรับ “เอ๋ มิรา ชลวิรัลวานิศร์” เเละอดีตสามี “ครูไพบูลย์ แสงเดือน” กับการฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูบุตร ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์และ จำเลยใช้อำนาจปกครองบุตรร่วมกัน โดยจำเลยชดใช้ค่าอุปการะเลี้ยงดูเดือนละ 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนบุตรบรรลุนิติภาวะ ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ช่วงกลางปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ยังมีประเด็นมาเรื่อยๆ เรื่องค่าเลี้ยงดูบุตรที่ครูไพรบูลย์จะต้องจ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้ เอ๋ มิรา ก็เพิ่งมาบอกว่า ครูไพบูลย์ไม่จ่ายเงิน แต่ครูไพบูลย์ยืนยันว่า ตนฝากเงินเดือนละ 10,000 บาท ในชื่อลูก และลูกจะถอนเงินได้คนเดียวเมื่ออายุ 20 ปี และมีฝากเงินไว้กับครูด้วย แต่หลายคนก็มองว่าเงินจำนวนนี้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของเด็ก เด็กต้องกินต้องใช้ทุกวัน แต่กลับไม่ยอมจ่ายเงินค่ากินในชีวิตประจำวันของลูก

ล่าสุด เอ๋ มิรา ก็ได้ออกมายืนยันเหมือนเดิมว่า “ค่าเลี้ยงดูบุตรยังไม่มีการจ่ายแม้แต่บาทเดียว ผ่านมาปีกว่าแล้วเราไม่ทวง เพราะคิดว่าคุณจะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ เราเลี้ยงลูกได้ แต่มันคือสิทธิ์ที่ลูกควรจะได้รับ ไม่อยากบอกว่าไม่จ่ายก็ไม่ต้องมายุ่ง เพราะนั่นก็ลูกคุณ สุดท้ายหากเลือกได้อย่าไปเป็นพ่อใครอีกเลยนะ”

ในขณะเดียวกัน หนูรัตน์ สุภัคชญา ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวจิ้นกันอย่างหนักกับครูไพบูลย์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเงียบๆ กันไป ก็เป็นอีกคนที่ออกมาโพสต์เช่นกันว่า “เลิกยุ่งแล้วค่ะ สู้ๆ ค่ะ รับงานคนเดียวค่ะ ขอกำลังใจหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ”  และรูปที่เขียนว่า เลิกยุ่งกันแล้ว จนคนคาดเดากันว่า ที่หนูรัตน์โพสต์จะหมายถึงครูไพบูลย์หรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม ครูไพบูลย์ ก็ไม่ได้ออกมาตอบโต้ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทว่ากลับมีคนเอาโพสต์ของเอ๋ มิรา ไปแปะ และถามว่านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ และคนก็เข้ามาโจมตีครูไพบูลย์ว่า เน้นผลิตอย่างเดียว อวดนั่นอวดนี่แต่ไม่มีปัญญาจ่ายค่าเลี้ยงลูกตัวเอง มิหนำซ้ำ บางคนถึงขั้นเข้ามาทวงค่าเลี้ยงดูบุตรอีกด้วย