หมอคนดังฉีด “ยาน้ำนม” ให้หลับ นางแบบสาวชักคาเตียง ยื้อชีวิต 19 วัน เพื่อนคุกเข่าขอร้องครอบครัว อย่าถอดเครื่องช่วยหายใจ
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน สื่อในจีนและไต้หวันรายงานข่าวเศร้าสะเทือนใจ วงการบันเทิงไต้หวันต้องสูญเสียนางแบบสาววัย 40 ปี “ไช่ อวี่ซิน” ซึ่งได้รับฉายาว่า “หลิน จื้อหลิง แห่งวงการพริตตี้รถยนต์” หลังจากเธอหมดสติยาวนานถึง 19 วัน ครอบครัวตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจให้เธอจากไปอย่างสงบ
จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ณ คลินิกเสริมความงามชื่อดังบนถนนจงเซี่ยวตง เขตต้าหอัน กรุงไทเป ซึ่ง ไช่ อวี่ซิน เข้ารับการรักษาอาการนอนไม่หลับ โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์ชื่อดังผู้ได้รับฉายาว่า “เทพดูดไขมัน” และ “หมอคืนความอ่อนเยาว์” ที่มักปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์และเป็นที่รู้จักในวงการศัลยกรรมความงาม
หลังฉีดยานอนหลับที่เรียกกันว่า “ยาน้ำนม” หรือ Propofol ซึ่งเป็นยาควบคุมที่ต้องใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น หมอได้ออกจากห้อง ปล่อยให้ผู้ช่วยชายอยู่ดูแลเพียงคนเดียว ไม่นานนัก ไช่ อวี่ซินก็เริ่มมีอาการชัก ตาเหลือก และหมดสติ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นไม่เป็นผล ทีมแพทย์จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ในขณะนั้นสัญญาณชีพของเธอได้หายไปแล้ว และเข้าสู่ภาวะโคม่าลึก แม้แพทย์จะพยายามยื้อชีวิตนานเกือบ 15 วัน แต่สุดท้ายครอบครัวตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจเมื่ออาการไม่ดีขึ้น
ตำรวจเขตต้าอันได้เข้าตรวจค้นคลินิก ยึดหลักฐานและสอบปากคำทีมแพทย์-พยาบาล รวมถึงเจ้าของคลินิก โดยคดีนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนในข้อหา กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ตามกฎหมายอาญาและกฎหมายทางการแพทย์ของไต้หวัน ครอบครัวยังได้ยื่นขอชันสูตรศพเพื่อไขข้อสงสัย
หลังการเสียชีวิตของ ไช่ อวี่ซิน เกิดกระแสกล่าวหาครอบครัวว่ารีบร้อนถอดเครื่องช่วยหายใจเพราะหวังมรดก โดยเพื่อนสนิทของผู้ตายเผยว่า แม่และพี่ชายของไช่ไม่รับฟังคำขอร้องจากเพื่อนที่ถึงขั้นคุกเข่าอ้อนวอน พร้อมกล่าวหาว่าทั้งสองต้องการยึดบ้านของเธอ 2 หลัง และเรียกเงินชดเชยจากโรงพยาบาลถึง 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวันเพื่อยุติคดี
ท่ามกลางกระแสสังคมที่ถาโถม พี่ชายของไช่ อวี่ซินได้ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมประกาศว่าจะดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหาในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg "เพื่อนขอร้องครอบครัวไม่ให้ถอดเครื่องช่วยหายใจ")
เพื่อนขอร้องครอบครัวไม่ให้ถอดเครื่องช่วยหายใจ
วิสัญญีแพทย์เดือด!
นพ.ไหล เซียนหยง วิสัญญีแพทย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 賴賢勇 เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ระบุว่า
มีเพื่อนหลายคน รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ในวงการ มักจะถามฉันว่า “ทำไมคลินิกเสริมความงามถึงต้องฉีด Propofol (ที่เรียกกันว่า ‘ยาน้ำนม’) ให้ลูกค้าหลับขณะทำทรีตเมนต์ยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ (Thermage หรือ RF) ด้วย? หรือเพราะต้องบริการแบบ VIP ถึงขนาดนั้น?”
ความจริงแล้ว ฉันอยากจะแชร์ความลับที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงในวงการนี้:
ในพื้นที่เมืองใหญ่ เช่น ไทเป มีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหานอนไม่หลับอย่างเรื้อรัง พวกเขาพึ่งพายานอนหลับชนิดรับประทานจนเกิดการดื้อยาไปแล้ว การฉีด Propofol ทางหลอดเลือดดำจึงถูกมองว่าเป็นวิธีที่ทำให้หลับได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมาก แต่นี่คือสิ่งที่ผิด!
Propofol เป็นยาวางยาสลบที่อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด ไม่สามารถใช้เพื่อการนอนหลับโดยทั่วไปได้
1. แต่ คลินิกบางแห่งกลับแอบใช้ Propofol กับลูกค้าแบบเสียค่าใช้จ่ายเอง เพื่อช่วยให้นอนหลับ ซึ่งถือว่า ผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์อย่างร้ายแรง
2. คลินิกเหล่านี้มักใช้ “ทรีตเมนต์ยกกระชับด้วยคลื่นวิทยุ” เป็นข้ออ้าง โดยแถมการฉีดยานอนหลับเข้าไปด้วยในชื่อ “ยาชาแบบผ่อนคลาย” (ซึ่งความจริงคือการวางยาสลบทางหลอดเลือดดำ) แสร้งว่าเป็นบริการเสริมในด้านความงาม แต่ที่แท้แล้วคือการลักลอบให้บริการยาสลบอย่างผิดกฎหมาย
3. ผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับเรื้อรังมักมีประวัติใช้ยากล่อมประสาทและยานอนหลับมาอย่างยาวนาน ทำให้ดื้อยา Propofol ในขนาดมาตรฐานจึงไม่เพียงพอให้หลับลึก แต่หากเพิ่มขนาดยาเพื่อให้หลับได้ ก็เสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะ กดการหายใจ — หลับก็จริง แต่ หยุดหายใจด้วย ตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดคือ Michael Jackson ที่เสียชีวิตจากการที่แพทย์ฉีด Propofol ให้หลับ
4. การให้บริการเช่นนี้โดยไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมด้านระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะ ถือว่า กำลังเอาชีวิตคนไข้มาเสี่ยงอย่างร้ายแรง
5. และเรื่องน่าเศร้าคือ เหตุการณ์แบบนี้ยังคงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกปี
