จากเหตุสลดเมื่อวันที่ 16 ก.ค.67 มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ในโรงแรมดังใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นชาวเวียดนาม สัญชาติเวียดนาม 4 คน และสัญชาติอเมริกัน 2 คน
ความคืบหน้าวันนี้ เวลา 11.15 น. (17 ก.ค.67) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กล่าวว่า จากการรรวบรวมพยานหลักฐาน กับ พฐ กับ สตม. เพื่อป้องกันความสับสน ขอไล่ไทม์ไลน์ให้เข้าใจชัดเจน มีการตรวจพบศพ 6 ศพ ห้อง 502 ชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์หลักฐาน ทุกอย่าง ถามพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง พยานแวดล้อม ญาติผู้ตาย ตรวจกระเป๋าเดินทาง 8 ใบ ครบหมดแล้ว ขอนำเรียนดังนี้ ทั้ง 6 ราย ตรวจการเดินทางเข้าออก
คนที่ 1 อายุ 46 ปี เข้าไทยครั้งแรก 12 ก.ค. 67 เวียดนามแอร์ไลน์ ถึง กทม. 13.48 น. มาจากโฮจิมินห์ มาแล้ว ไปเช็คอินห้องห้อง 502 วันที่ 13 ก.ค.67 ไปห้อง 708 ชั้น 7 วันที่ 15 ก.ค.67ได้เวลาเช็คเอาท์
คนที่ 2 สัญชาติเวียดนาม ผญ.เสื้อชมพู อยู่ห้องนอน อายุ 47 ปี มาตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.67 เวลา 12.56น. เคยมาไทย 17 ครั้ง วันที่ 2 มาพักห้อง 1215 วันที่ 14 ก.ค.67 ย้ายไป 709 วันที่ 15 ก.ค.67 เช็คเอาท์ แล้วมาห้อง 502
หมายเลข 3 อายุ 37 ปี มาไทย 12 ก.ค.67 มา 11 ครั้ง เช็คอิน 1219 วันที่ 14 ก.ค.67 ไป ห้อง726 เช็คเอาท์วันที่ 15 ก.ค.67
คนที่ 4 ผช. สัญชาติอเมริกัน 55 ปี เสื้อสีกรมท่า มาไทย วันที่ 7 ก.ค. 67 เวลา 09.55น. มาประเทศไทยครั้งแรก 12 เช็คอิน เวลา 12.12 น. วันที่ 14-15 ก.ค.67 อยู่ห้อง 727
คนที่ 5 ผญ. สัญชาติอเมริกัน 56 ปี เข้าไทย 5 ก.ค.67 เคยมา 5 ครั้ง เช็คอินห้อง 504 วันที่13 ก.ค.67 อยู่ห้อง 808 วันที่ 14-15 ก.ค.67 อยู่ห้องที่เกิดเหตุ
คนที่6 อายุ 49 ปี เข้าไทย 12 ก.ค. 67 เวลา 13.48 น. มาไทยครั้งเดียว ในโรงแรมไม่พบในระบบที่เข้าพัก (ไม่ได้บุ๊คกิ้ง) ตรวจสอบจากญาติ คือสามีของหมายเลข 1 มาพร้อมกัน
วันที่ 4 ก.ค.67 หมายเลข 2 เข้ามาคนแรก วันที่ 5 ก.ค.67 หมายเลข 5 เข้ามาพัก วันที่ 7 ก.ค.67 หมายเลข 4 เข้ามา วันที่ 12 ก.ค.67 ที่เหลือมาอีก 3 คน จากโฮจิมินห์ ปรากฎว่าเป็นน้องสาวของคนที่ในบุ๊คกิ้งแจ้งเข้าพัก มาพร้อมกันในวันที่ 4 ก.ค.67 แต่วันที่ 10 ก.ค.67 กลับดานังก่อน
แต่ละคนมาเช็คอินด้วยตัวเอง เข้าพักตามห้องที่แจ้งไป แสดงว่ามีเพียง 6 คนมาเข้าพัก ไทม์ไลน์วันที่ 14-15 ก.ค.67 มีคนภายนอกมามั้ย? ณ เวลานี้ ยืนยันว่ามีแค่ 6 คนที่เข้าไป ไม่มีบุคคลภายนอกเข้าไปเลย ดูจากกล้องวงจรปิด หลังจากวันที่ 16 ก.ค.67 พนักงานโรงแรมเข้าไปตรวจสอบ เพราะเลยเวลาเช็คเอาท์ แม่บ้านเข้าไปเจอนึกว่าคนเป็นลม เลยอ้อมไปทางด้านหลัง มีแค่ รปภ.ที่เข้าไป ประตูไม่ได้ล็อคไว้ แล้ว รปภ. ก็เดินมาเปิดประตูด้านหน้าให้ แม่บ้าน หัวหน้า รปภ. เข้าไปในห้อง
คืนวันที่ 14 ก.ค.67 ทั้งหมด ที่ห้อง 502 คนที่เช่าพักคือเชอลีน หมายเลข 5 แต่เบอร์ 1 2 3 4 – 6 ได้เข้ามาตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.67 ช่วง 5 ทุ่ม -เที่ยงคืน ก่อนแยกย้ายกลับห้อง วันที่ 15 ก.ค.67 หมายเลข อื่นๆ เช็คเอาท์ จากห้องตัวเองแล้วลากกระเป๋ามาห้อง 502 นอกจากนี้ หมายเลข 4 มีการสั่งอาหารจากโรงแรม ยืนยันชัดเจนว่าสั่งตั้งแต่ เวลา 11.42 น. ข้าวผัด 5 จาน ต้มยำ 4 ชาม ผัดผัก 4 จาน ผัดผักบุ้ง 1 จาน ชาร้อน 2 กา แก้วชา 6 ใบ ต่อมาหมายเลข 3 สั่งข้าวผัดอีกจาน เป็นจานที่ 6 ขอให้มาส่งที่ห้องตอนเวลา 14.00 น. พนักงานเข้าไปส่งอาหารที่ห้องประมาณ 13.51 น. ออกมาเวลา 13.57 น. เข้าไป 6 นาที ตอนเข้าไปเจอแค่ ผญ. หมายเลข 5 มารับอาหาร
ตอนเข้าไป พนักงานยืนยันว่า เอาอาหารทั้งหมดไปวางไว้ที่โต๊ะสี่เหลี่ยม ชุดชา มาวางที่โต๊ะกลม พนักงานจะชงชาให้ ผญ.เบอร์ 5 บอกว่าเดี๋ยวจัดการเอง ใช้เวลาประมาณ 6 นาที เวลา 13.57 น. นักงานโรงแรมออกมาแล้ว ผญ.อยู่คนเดียว จากนั้นเวลา 14.03 น. ผญ.เบอร์ 1 ลากกระเป๋ามา ตามด้วยเบอร์ 6 เวลา 14.08 เบอร์ 4 เข้ามา
เวลา 14.20 น. หมายเลข 5 4 1 3 มารวมตัวกันหน้าห้อง หมายเลข 3 มาเวลา 9 โมงที่ 502 แล้ว กลับไป แล้วมาอีก เวลา 14.17 น. ทุกคนเข้าไปที่ห้องนี้ แล้วก็ไม่พบว่ามีใครเดินออกมาอีกเลย
นิติเวชรอชันสูตรพลิกศพอยู่ รอรายละเอียดทุกเรื่อง ทุกประเด็น เบื้องต้นพบว่าที่ถ้วยชา มีไซยาไนด์ แก้ว 6 ใบ ก็มีไซยาไนด์ ยืนยันว่า 1 ใน 6 หลังจาก พนง.เสิร์ฟ ถ้วยชากาน้ำร้อน ตั้งแต่เวลา 13.57 น. แล้วออกมา นั่นคือจุดสตาร์ท ว่ามี 1 ใน 6 ใช้ไซยาไนด์ทำให้เหตุเกิดขึ้น
ตำรวจได้มีการประสานสถานทูต เวียดนาม อเมริกา เอฟบีไอเข้ามา ร่วมไขคดี ผลการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด จะตรวจสอบต่อไป ส่วนเรื่องการผสมไซยาไนด์ จะนำเรียนต่อไป ญาติพี่น้อง เบอร์ 5 กับ 2 เหมือน 2 เป็นนายหน้ามาชวนลงทุน เบอร์ 1 เบอร์ 6 ลงทุน 10 ล้านบาทไทย เอาเงินให้เบอร์ 5 ไป ทวงถามตลอด การดำเนินการไม่ได้เป็นผล ว่าจะไปเคลียร์ที่ญี่ปุ่น แต่วีซ่าไม่ผ่าน เลยนัดกันมาคุยที่ไทย ต้องใช้เวลาตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง เป็นเรื่องส่วนตัวบุคคลทั้ง 6 ราย ไม่ได้เกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมใดๆ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. กล่าวว่า จัดเก็บหลักฐานครบถ้วน ผลการตรวจเบื้องต้นตรวจเชิงคุณภาพ พบว่าเป็นสารไซยาไนด์ในกาน้ำชา อยู่ที่คราบในถ้วยกาแฟ ทั้ง 6 ถ้วย แล้วก็ทราบจาก ตัวอย่างเลือด จากศพผู้เสียชีวิตที่นั่งพิงกำแพง ก็พบเลือดมีไซยาไนด์ การตรวจเชิงวิเคราะห์จะทยอยรายงานผล อาหารก็ทยอยตรวจและมีผลออกมา
ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. / 5 ก.ค. / 7 ก.ค. และ 12 ก.ค.67 ไล่ไทม์ไลน์มาตั้งแต่เครื่องเข้าไทย ว่า 6 คนไปที่ไหนยังไงบ้าง เพราะการแจ้งเข้าพักทราบแค่มาโรงแรมนี้ ต้องไล่ละเอียดอีกที ไซยาไนด์มาได้อย่างไร
กระเป๋าเดินทาง 8 ใบ ไม่พบของผิดกฎหมาย แต่เจอเอกสารของคนเบอร์ 5 ที่ฟ้องร้องเรื่องที่ดินตั้งแต่ปี 2022 มาทำธุรกิจมั้ย ? รอตรวจสอบกับสถานทูตก่อน ญาติบอกว่า 2 สามีภรรยา รับเหมาทำถนนที่เวียดนาม ส่วนธุรกิจที่ชวนกันลงทุนคือทำ รพ.ในญี่ปุ่น แต่ไม่พบการเคลื่อนไหวโครงการเลย ความสัมพันธ์ทั้งหมด เบอร์ 5 จองห้องพัก แต่เบอร์ 4 ใช้บัตรตัวเองรูดให้
พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. กล่าวว่า จัดชุดประสานกับทางกระทรวงความมมั่นคงเวียดนาม เตรียมขยายผลต่อ ไปไล่ดูกล้อง ทางสนามบินต่างๆ ได้ที่นั่งมาหมดแล้ว ใครนั่งคู่ใครยังไง คนนั่งคู่กำลังเอาตัวมาตรวจสอบ เอฟบีไอ ขอข้อมูลไม่ได้ร่วมสอบสวน คนที่เข้ามาไทย ก่อนมาพักโรงแรมนี้พักที่ไหน กำลังตรวจสอบ ช่วงบ่ายน่าจะได้รายละเอียด ทั้ง 6 คน ถ้ามีหมายจับไม่สามารถเข้าประเทศได้ ยืนยันว่าประสานต่างประเทศทั้ง 6 ไม่มีหมายจับตำรวจสากล ยืนยันว่าประเทศไทยเรายังเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยว ปลอดภัย เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องจากปัญหาส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรม
คิดว่าทำไมต้องเป็นไทย? คิดว่าเพราะไทย น่าเที่ยว ต่อไปจะวางมาตรการ คัดกรอง ข้อมูล เพิ่มความปลอดภัย นักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด ตร.ท่องเที่ยวจะระบุได้เลยว่าเข้าไทยแล้ว นักท่องเที่ยวไปไหนบ้าง เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัย สร้างระบบไว้เรียบร้อย
สอบปากคำญาติ พยาน จนท. พนง.โรงแรม 10 กว่าปาก บทสรุป ณ วันนี้ ยืนยันว่าพบแค่ 6 คนในห้องพักนั้น เชื่อว่า 1 ใน 6 เป็นผู้กระทำ ญาติติดใจว่า 1 ในนี้แหละที่ก่อเหตุให้เบอร์ 1 กับ 6 ที่เป็นญาติเขาเสียชีวิต
ยืนยัน ถ้วยชา จานรอง กระติดชา กระบอกน้ำร้อนเป็นของโรงแรม ซึ่งเมื่อวานที่บอกไม่ใช่ของโรงแรมเพราะคนที่บอกเป็น รปภ. ไม่ได้ทำส่วนนี้ ลายนิ้วมือแฝง ตรวจสอบอยู่ เก็บไปครบถ้วนแล้ว หมายจับตำรวจสากลไม่มีแน่นอน แต่หมายจับในประเทศ ส่งไปทางเวียดนามแล้ว คิดว่าวันนี้น่าจะตอบมา ทุกศพเสียชีวิตประมาณ 24 ชม. บวกลบ สอบถามพนักงานเสิร์ฟ บอกว่าพูดน้อยมาก ดูเครียด มีชมว่าชุดสวย แต่เบอร์ 5 ยังไม่ยิ้มเลย เครียดๆ