กระทรวงการคลังเตรียมปรับเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 วงเงิน 10,000 บาท หลังพบข้อมูลสำคัญจากการแจกเงินรอบก่อน มุ่งปิดช่องโหว่ไม่ให้เงินรั่วไหล พร้อมผลักดันให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างเต็มที่
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์การแจกเงินรอบก่อน มีเพียง 5% ของงบประมาณ 1.9 แสนล้านบาท ที่ถูกนำไปใช้หนี้และเก็บออม แต่รัฐบาลต้องการให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการปรับปรุงระบบให้รัดกุมยิ่งขึ้น การดำเนินโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 1 และเฟส 2 ให้ผู้ได้รับเงินสามารถถอนออกมาเป็นเงินสดใช้จ่ายที่ใดก็ได้ แต่เฟส 3 จะเป็นการแจกเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้ โดยจะกำหนดเงื่อนไขใช้จ่ายได้ตามร้านค้าที่มีการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงการคลัง และการใช้จ่ายรอบแรกจะต้องอยู่ภายในเขตอำเภอตามบัตรประชาชนของแต่ละคนเท่านั้น
ระบบใหม่ที่ต้องรู้เกี่ยวกับเงินดิจิทัลเฟส3
1. ความปลอดภัยระดับสูง ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ระบบ Open Loop เชื่อมต่อกับธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รองรับการใช้งานผ่านกลุ่ม non-bank
2. รูปแบบการใช้จ่าย ยืนยันใช้ผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น อยู่ระหว่างการทดสอบระบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระบบ
กำหนดการสำคัญเงินดิจิทัลเฟส3 การจ่ายเงิน: ไตรมาส 2 ปี 2567 (เม.ย.-มิ.ย.) ประชุมสรุปรายละเอียดสุดท้าย: ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 สถานะปัจจุบัน: อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ
เตรียมพร้อมรับสิทธิ์อย่างไร?
1. คุณสมบัติพื้นฐาน อายุ 16-60 ปี รายได้ไม่เกิน 840,000 บาท/ปี เงินฝากรวมไม่เกิน 500,000 บาท (ณ 31 มี.ค. 67)
2. เอกสารที่ต้องเตรียม บัตรประชาชน ภาพถ่ายปัจจุบัน (พื้นหลังสีขาว) เบอร์โทรศัพท์และอีเมลที่ใช้งานได้
3. การเตรียมความพร้อม
-ติดตั้งแอปพลิเคชันทางรัฐ -เตรียมพื้นที่มือถืออย่างน้อย 100 MB
-ตรวจสอบระบบมือถือให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ทางรัฐบาลยืนยันว่าจะมีวิธีการลงทะเบียนพิเศษให้ โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ ส่วนจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ในเฟส 3 ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
ข้อควรระวัง
อย่าหลงเชื่อข่าวลือเรื่องการจ่ายเงินในเดือนมีนาคม 2567
ติดตามข้อมูลผ่านช่องทางการสื่อสารของรัฐบาลเท่านั้น
รอการประกาศเงื่อนไขอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง