ราคาทองผันผวนหนัก!! คาดอาจแตะถึง 70,000 บาท

หลังจากก่อนหน้านี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงต่อเนื่องยาวนานมาหลายสัปดาห์ หนุน gold spot แตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ 4,381.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่งแตะ 67,400 บาท ทองรูปพรรณทะลุ 68,200 บาท ทั้งนี้เป็นผลมาจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ จะพบกับ “สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีของจีน ในระหว่างการประชุมเอเปกที่เมืองคย็องจู เกาหลี ใต้ สิ้นเดือนต.ค.นี้ ทำให้ตลาดคาดหวังความคืบหน้าผลเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

นอกจากนี้การชัตดาวน์ในสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ ทำให้ขาดข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และไม่มีตัวเลขอ้างอิงส่งผลให้เกิดแรงขายทองคำอย่างไร้ทิศทาง

สำหรับแนวโน้มทิศทางทองคำในสัปดาห์หน้าจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นการพักฐานเพื่อไปต่อหรือไม่ และมีปัจจัยบวกลบอะไรที่ต้องติดตาม โดยมีแนวโน้มกลับไปยืน 67,000 บาทหรือไม่ และปลายปืทองแท่งอาจจะไปถึง 70,000 บาท

เริ่มจาก “วรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด มองว่า ราคาทองคำปรับตัวลงแรงจาก 2 ประเด็นหลักคือ 1. นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีนจะพบปะหารือกันในช่วงระหว่างการประชุมเอเปกที่เมืองคย็องจู เกาหลีใต้ สิ้นเดือนตุลาคมนี้ โดยการพบกันครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากข้อพิพาททางการค้า และคำขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 100% หากจีนไม่ผ่อนคลายการควบคุมการส่งออกแร่หายาก

2.นายเควิน แฮสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวระบุว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาลหรือ Government Shutdown มีแนวโน้มสิ้นสุดภายในเดือนต.ค.ทำให้กองทุนมีการเทขายทองคำทำกำไรทุบราคาทองร่วง

โดยทางเทคนิคหลังราคา gold spot ปรับขึ้นสูงสุดจะเริ่มปรับตัวลงให้ระวังที่ระดับราคา 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองแท่งประมาณ 62,900 บาท ถ้าหลุดอาจไปทดสอบแนวรับแรกที่ 3,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับถัดไปที่ 3,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และ 3,750 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพราะปกติราคาทองจะปรับตัวลงประมาณ 1 สัปดาห์

แนวโน้มสัปดาห์หน้าปัจจัยที่ต้องติดตามการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ตลาดคาดว่าปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาออกมาต่ำกว่าตลาด ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะเป็นปัจจัยพยุงทองคำ ตามติดด้วยเรื่อง Government Shutdown จะได้ข้อยุติในสัปดาห์หน้าหรือไม่ รวมถึงผลการหารือระหว่าง “ทรัมป์” กับ “สี จิ้น ผิง” ถ้าตกลงกันได้ด้วยดีราคาทองคำจะร่วงลึกและเชื่อว่าทองแท่งคงไม่หลุด 60,000 บาท

แต่ในทางกลับกันถ้าตกลงกันไม่ได้ราคาจะพุ่งต่อ และมีโอกาสเห็น gold spot แตะ 4,380-4,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองแท่งกลับไปแตะที่ระดับ 67,000 -68,000 บาท แต่ถ้าทองแท่งจะไปถึง 70,000 บาท gold spot จะต้องทะลุ 4,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยจะต้องดูอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงนั้นด้วยว่าอ่อนค่าลงหรือไม่

ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อราคา gold spot ทดสอบที่ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์และเด้งกลับ ขณะที่ราคาทองแท่งที่เข้าซื้อจะอยู่ที่ 58,500- 63,000 บาท (คิดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 32.90 บาท) ด้านแนวต้านแรกอยู่ที่ 4,190 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวต้านถัดไปที่ 4,275 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ถ้าผ่านไปได้มีโอกาสที่จะไปแตะ 4,380 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดครั้งก่อน

ราคาทองคำดิ่งหนักในรอบ 12 ปี หลังตลาดคลายกังวลสงครามทางการค้า โดย “ทรัมป์” เตรียมหารือกับ “ สี จิ้น ผิง” ในสัปดาห์หน้า กูรูประเมินทิศทางทองคำพักฐาน เพื่อไปต่อ และมีโอกาสทะลุ 68,000 บาท