ครูพลาด! ส่งรูปเด็กๆ “นอนกลางวัน” รีบลบแต่ไม่ทัน ผปค.รัวแชทถล่ม เห็นแล้วจัดที่ให้ยังไง

ครูอนุบาลส่งรูปเด็กๆ “นอนกลางวัน” เข้าแชทกลุ่มผู้ปกครอง รู้ตัวรีบลบแต่ไม่ทัน พ่อแม่เห็นแล้วดราม่า สุดท้าย ผอ.ต้องขอโทษ

กลายเป็นประเด็นที่ต้องออกมาชี้แจง หลังจากคุณครูอนุบาลในประเทศจีน พลาดส่งรูปนักเรียนนอนกลางวันเข้าแชทกลุ่มโดยไม่ตั้งใจ แม่จะรีบกดยกเลิกการส่งรูปดังกล่าวภายในเวลาไม่ถึง 2 นาที แต่ก็มีผู้ปกครองบางส่วนที่ได้เห็นแล้วไม่สบายใจ พร้อมทั้งมีบางคนแคปภาพหลักฐานไว้ทันด้วยว่า “เด็กชายและเด็กหญิงไม่ได้นอนแยกกัน” จึงพากันส่งข้อความเรียกร้องคำอธิบายที่สมเหตุสมผล ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการร้องเรียนกับทางโรงเรียน

ผู้ปกครองคนหนึ่งเปิดเผยว่า ลูกสาวที่รักของเธออายุ 4 ขวบ เมื่อส่งไปโรงเรียนอนุบาลยอมรับว่ามีความกังวลมาก ว่าลูกจะเข้ากับสภาพแวดล้อมในห้องเรียนได้ดีหรือไม่ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอปักหมุดกลุ่มแชทของชั้นเรียนอนุบาลไว้ที่ด้านบน เพื่อที่เธอจะได้อัพเดทข่าวสารโรงเรียนของลูกสาวโดยเร็วที่สุด และเพื่อคอยดูรูปภาพที่คุณครูจะส่งเข้ามาในแชทกลุ่มผู้ปกครองทุกวัน

อย่างไรก็ดี กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ทำให้เธอและผู้ปกครองคนอื่นๆ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก หลายคนแสดงปฏิกิริยาอย่างรุนแรงทันที แม้เหตุการณ์จะเกิดในช่วงเที่ยงวันแต่กลุ่มสนทนาในชั้นเรียนก็เต็มไปด้วยข้อความมากมาย เนื่องจากทุกคนต่างต้องการคำอธิบายในเรื่องการจัดที่นอนให้เด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย “นอนรวมกัน” เช่นนี้

ในเวลาต่อมา เพื่อตอบสนองต่อปฏิกิริยาของผู้ปกครอง คุณครูได้กล่าวกล่าวขอโทษทั้งนักเรียนและครอบครัวเป็นอันดับแรก พร้อมอธิบายสถานการณ์นี้ว่าเกิดจากสถานการณ์ “ขาดแคลนครูอนุบาล” ดังนั้นในเวลางีบหลับเด็กชายและเด็กหญิงจึงถูกจัดให้นอนใกล้กันชั่วคราวในช่วงนี้ เพื่อให้ครูสามารถดูแลและรักษาความปลอดภัยได้ทั่วถึง

ในขณะที่วันต่อมา ครูใหญ่ของโรงเรียนก็ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ทางโรงเรียนกำลังรับสมัครครูใหม่อยู่ เด็กนักเรียนชายและหญิงจะถูกจัดให้นอนในพื้นที่แยกกันอย่างเหมาะสม ซึ่งหลังจากฟังคำชี้แจงนี้ผู้ปกครองก็สงบลงและไม่คัดค้านอีกต่อไป

ทำไมเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงควรนอนแยกกันในโรงเรียนอนุบาล?

สถานการณ์การที่เด็กชายและเด็กหญิงนอนรวมกันมีอยู่ในโรงเรียนหลายแห่ง หลายคนอาจคิดว่าการงีบหลับสั้นๆ จำเป็นหรือไม่ที่ต้องแยกพื้นที่นอนของเด็กชายและเด็กหญิง? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเด็กยังอยู่เพียงชั้นอนุบาลเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าเขาหรือเธอไม่มีความรู้มากนักเกี่ยวกับความแตกต่างทางเพศ แล้วจำเป็นต้องแยกพื้นที่นอนหรือไม่? ในเรื่องนี้ตามรายงานของเว็บไซต์ vietgiaitri ได้ระบุถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากเด็กชายและเด็กหญิงนอนด้วยกัน

ประการแรกคือ อิทธิพลต่อการสร้างจิตสำนึกทางเพศ เนื่องจากช่วงอายุ 4-7 ปี ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เด็กๆ จะต้องสร้างความตระหนักรู้ทางเพศ หากได้รับอนุญาตให้งีบหลับด้วยกันเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดความสับสนในการรับรู้เรื่องเพศของพวกเขาได้ คิดว่าไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างชายและหญิง สิ่งนี้เป็นอันตรายต่อการพัฒนาแนวคิดทางเพศที่ดีต่อสุขภาพในอนาคต การตระหนักรู้เรื่องเพศที่ถูกต้องช่วยให้เด็กเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองเพศได้ดีขึ้น ดังนั้นจึงเรียนรู้วิธีการเคารพเพศตรงข้ามและป้องกันตนเองจากการถูกคุกคาม

อีกประการหนึ่งคือ เด็กก่อนวัยเรียนอาจไม่รู้สึกผิดปกติเกี่ยวกับการงีบหลับทั่วไปในช่วงที่ยังเด็ก แต่เมื่อเด็กโตขึ้นพวกเขาอาจรู้สึกเป็นทุกข์ทางจิตใจเมื่อนึกถึงประสบการณ์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเด็กเข้าสู่วัยแรกรุ่น และความแตกต่างทางกายภาพระหว่างชายและหญิงชัดเจนมากขึ้น ประสบการณ์นี้อาจกลายเป็นภาระทางจิตใจ และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในภายหลังได้