เปิดวิธีแก้ เงินดิจิทัล 10,000 บาท แอปทางรัฐ ค้างอยู่ขั้นตอนที่ 3 และ 4 ต้องทำอย่างไร

เปิดวิธีแก้ เงินดิจิทัล 10,000 บาท แอปทางรัฐ ค้างอยู่ขั้นตอนที่ 3 และ 4 ต้องทำอย่างไรบ้าง จะได้เงินหมื่นหรือไม่ เผยขั้นตอนไม่ยุ่งยาก

วันที่ 26 ก.ย.2567 วันที่สอง ที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เปิดให้ประชาชนกลุ่มเปราะบาง สามารถเช็กหรือตรวจสอบสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการผ่านเว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th/welfare/check10000 และ govwelfare.cgd.go.th เช็กสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็น 1 ใน 2 ช่องทางให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มคนพิการสามารถเช็กสิทธิเพื่อตรวจสอบรับเงินสด 10,000 บาท โดยโอนให้ในวันที่ 25-30 กันยายน 2567

แอปทางรัฐ ใช้ลงทะเบียนสำหรับรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท

แอปทางรัฐ ใช้ลงทะเบียนสำหรับรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ระบบ ‘แอปทางรัฐ’ ขึ้นอยู่ ขั้นที่ 3 หรือ 4 หมายความว่าอะไร

วิธีตรวจสอบสิทธิเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีขั้นตอนดังนี้

  1. เปิดแอปทางรัฐ ทำการเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่มตรวจสอบสถานะ
  2. ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้ท่านกดปุ่มยืนยันข้อมูล
  3. กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)
  4. กรอกรหัส OTP และกดปุ่มยืนยันโทรศัพท์มือถือ
  5. จากนั้นกดปุ่มอนุญาต ให้แอปพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
  6. ระบบจะแสดงผลว่า สถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของท่านอยู่ในขั้นตอนใด
  • หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ
  • หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือท่านไม่ได้รับสิทธิ
  • หากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือท่านได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

เฟส 2 อาจได้แค่ 5,000 บาท

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่า ยืนยันว่าจะได้รับอย่างแน่นอน ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งมองประโยชน์ใน 2 มิติ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้ดิจิทัล ซึ่งจะมีประชาชนที่ต้องดูแลเหลือประมาณ 26 ล้านคน โดยตัดความซ้ำซ้อนจากกลุ่มเปราะบางที่เข้ามาลงทะเบียนแล้วได้รับสิทธิไปแล้ว

“จากยอดลงทะเบียน 36 ล้านคนพบว่ามีความซ้ำซ้อนจากสิทธิที่ได้รับในกลุ่มเปราะบาง 10 ล้านคน ส่วนกลุ่มเปราะบางที่เหลืออีก 4 ล้านคน ก็สันนิษฐานได้ว่า เป็นกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนด้วย ฉะนั้นจะเหลือประชาชนที่ต้องดูแลอีกประมาณ 26 ล้านคนบวกลบ” รมช.คลังกล่าว

ขณะที่ความคืบหน้าการเดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 จะต้องรอความชัดเจนจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วนจะจ่ายเงิน 10,000 บาท หรือ 5,000 บาท จะต้องดูความเหมาะสม เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายมิติ

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง

“การแจกเงินในเฟส 2 ยืนยันว่ายังเดินหน้าอย่างแน่นอน ผ่านดิจิทัล แต่การจ่ายนั้นจะเป็นเท่าไหร่ จะขอดูความเหมาะสม และการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย ขณะที่การบริหารจัดการงบประมาณไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน” นายจุลพันธ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจ่ายเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบางและผู้พิการ ที่เริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.เป็นต้นไปนั้น รวมระยะเวลาแจกตามเลขบัตรประชาชน 4 วัน เชื่อว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.35% โดยภายหลังการโอนเงินให้ประชาชนวันแรก พบว่า บรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนมีความคึกคักมากขึ้น

ทั้งนี้ หากประเมินทั้งโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่คาดว่าจะใช้เม็ดเงินรวมประมาณ 450,000 ล้านบาทนั้น แม้จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่มมากขึ้น แต่ยังต่ำกว่าระดับศักยภาพที่มองไว้ โดยมองว่า ศักยภาพของไทยควรจะอยู่ที่ประมาณ 5% โดยต้องขยายเพดานศักยภาพของเราผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น การพัฒนาทักษะแรงงาน ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ที่ต้องเดินคู่ขนาน

“อย่าพอใจกับตัวเลขศักยภาพเศรษฐกิจที่ระดับ 2% เพราะศักยภาพของไทยควรจะอยู่ที่ 5% เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ต้องใช้เวลา และไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ในปีเดียว โดยรัฐบาลมีภาระหน้าที่ ทั้งในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก็ต้องทำ” นายจุลพันธ์กล่าว