สทนช. ประชุมด่วนประเมินสถานการณ์น้ำ เตรียมรับมือฝนตกหนักและพายุ เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ 2,000 ลบ.ม./วินาที เสี่ยงท่วม 5 จังหวัด พร้อมแผนตั้ง “กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ”
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้จัดประชุมเพื่อประเมิน สถานการณ์น้ำ และวางมาตรการรับมือฝนตกหนัก รวมถึงความเสี่ยง อุทกภัย ที่อาจเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ปริมาณฝนและการปรับแผนบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำสำคัญ
คาดการณ์ฝนตกและพายุเดือนกันยายน 2568
– 12 – 16 กันยายน 2568: ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคอีสานตอนล่าง ทำให้เกิด ฝนตกหนักบางแห่ง
– 17 – 21 กันยายน 2568: ร่องมรสุมเลื่อนลงมาทำให้มี ฝนตกหนักถึงหนักมาก ครอบคลุมหลายพื้นที่ รวมถึง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
– ปลายกันยายน – ต้นตุลาคม: คาดว่าจะมีพายุเข้าสู่ประเทศไทย 1–2 ลูก ซึ่งจะเพิ่มปริมาณฝนให้สูงขึ้น

สทนช. ประชุมด่วน หลังคาดพายุเข้าไทยอีก 1–2 ลูก ช่วงปลายเดือน
แผนจัดการน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ
ลุ่มน้ำชี–มูล
– เขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำ 67% ของความจุ
– มติที่ประชุมให้เพิ่มการระบายน้ำจาก 18 ล้าน ลบ.ม./วัน → 20 ล้าน ลบ.ม./วัน
ลุ่มน้ำโขงตอนบน–อีสาน
– อ่างเก็บน้ำหลายแห่งเต็มความจุ เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง (100%) และหนองหาร (98%)
– มีมติให้เพิ่มการระบายน้ำเพื่อรองรับฝนรอบใหม่
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา
– เขื่อนภูมิพล (76%) และเขื่อนสิริกิติ์ (87%) ชะลอการระบายน้ำไว้ 1 สัปดาห์
– เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ 2,000 ลบ.ม./วินาที ทำให้มีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม 5 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี และนนทบุรี รวมกว่า 138,100 ไร่
– กรมชลประทานเร่งระบายน้ำออกฝั่งตะวันตก–ตะวันออก พร้อมจัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำ
– หากต้องเพิ่มการระบายน้ำเกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที ต้องขออนุญาต กนช. ล่วงหน้า 3 วัน และแจ้งเตือนประชาชนริมแม่น้ำทันที

สทนช. ประชุมด่วน หลังคาดพายุเข้าไทยอีก 1–2 ลูก ช่วงปลายเดือน
เตรียมตั้ง “กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ”
ที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอจัดตั้ง กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เพื่อบูรณาการการทำงานและรับมือสถานการณ์น้ำที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ถือเป็นการยกระดับการบริหารจัดการอุทกภัยตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561
