ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีลูกค้าผู้หญิงนำทองปลอมมาขายที่ร้านทอง แต่เมื่อพนักงานตรวจสอบพบว่าเป็นทองปลอม ลูกค้าได้โวยวายหาว่าร้านมีการสับเปลี่ยนของ จนเกิดการโต้เถียงกันภายในร้าน เหตุเกิดที่ร้านทองชื่อดัง ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาอุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุ ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี จึงนำกำลังสายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.มุก (น.ส.อารีวรรณ พรมศิริเดช) อายุ 33 ปี ชาว ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี นั่งส่งเสียงดังอยู่ภายในร้าน โดยมี รปภ.หญิง ของศูนย์การค้า และพนักงานร้านทอง กำลังพูดจาไกล่เกลี่ย และอธิบายให้ น.ส.มุก ใจเย็นลงและเข้าใจในสถานการณ์ดังกล่าว พนักงานร้านทองอธิบายว่า ทองที่ น.ส.มุก เอามามาขาย เป็นทองปลอม พิสูจน์แล้วด้วยวิธีการใช้ความร้อน ตะขอดังกล่าวเปลี่ยนสีเป็นโลหะ แต่ น.ส.มุก โต้เถียงว่าทางร้านได้แอบเปลี่ยนตะขอทองของตน
เมื่อตำรวจเข้ามาร่วมสอบถาม น.ส.มุก ก็ยังยืนยันว่าทองของตัวเองเป็นของแท้ เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ใครจะรับผิดชอบ สุดท้ายตำรวจได้แนะนำให้ไปพูดคุยที่โรงพัก น.ส.มุกก็มีท่าทีเปลี่ยนไป บอกว่าไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากให้พนักงานร้านทองตกงาน ขอเพียงชดใช้เงินมา 500 บาท จะจบเรื่องให้ แต่พนักงานร้านก็ยืนยันคำเดิม จึงได้พา น.ส.มุก เดินไปเอารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าศูนย์การค้า ระทางก็รองว่าขอเพียง 200 บาท ก็ได้ แต่ตำรวจได้คุมตัวพร้อมรถจักรยานยนต์ไปโรงพักทันที
น.ส.มุก ให้การว่า ตนมีตะขอทองจากสร้อยทอง จึงต้องการนำเอามาจำนำหรือเอามาขาย เพื่อต้องการเอาเงินไปใช้จ่ายซื้อกับข้าวกิน แต่เมื่อเอาที่ร้านแล้วกลับพบว่าเป็นทองปลอม ตนเชื่อว่าตะขอทองของตนเป็นของจริง แต่พนักงานร้านเป็นคนสับเปลี่ยน ตนยืนยันว่าตนเห็น แต่เรื่องมาถึงขนาดนี้ก็ขอเพียงเงิน 500 บาท หรือ 200 บาท ก็ได้ ตนจะจบเรื่องให้ ไม่อยากให้พนักงานของร้านต้องตกงาน ทองของตนเป็นทองแท้ แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าได้ตะขอทองนี้มายังไง
นางพิราวัลย์ แก้วละเอียด อายุ 40 ปี ผู้จัดการร้านทอง เล่าว่า ลูกค้าเข้ามาก็บอกจะเอาตะขอทองมาขาย ตนก็บอกว่าร้านไม่สามารถรับซื้อได้ เพราะไม่ใช่ทองแท้ เขาก็ยัดเยียดว่ามันเป็นทองแท้ แต่มันเป็นเศษทอง ทำไมถึงไม่รับซื้อ ลูกค้าก็ยังยืนยันว่าจะขาย เราก็เลยบอกลูกค้าว่าถ้าจะขาย เราจะเผาไฟเพื่อพิสูจน์ให้ ลูกค้าก็บอกว่าเผาเลย เพราะเป็นทองแท้อยู่แล้ว จนเมื่อเผาแล้วตะขอก็เป็นสีเป็นโลหะ ไม่ใช่ทองอย่างที่ลูกค้ายืนยัน
ด้านนายธีรพัฒน์ พันธ์ดี อายุ 24 ปี พนักงานร้านทอง ที่ตามให้ข้อมูลที่โรงพัก เล่าว่า ครั้งแรกที่ลูกค้าเข้ามา เขาเอาตะขอทองมาให้ดู เราดูและสัมผัสก็รู้ว่าไม่ใช่ทอง จึงปฏิเสธให้บริการไป เขาบอกว่าจะมาจำนำ เราก็ปฏิเสธ ถ้าอย่างงั้นจะขายเลย เราก็ปฏิเสธอีก ก่อนหน้านี้เขาไปร้านทองข้างๆมา เขาก็บอกว่าร้านนั้นก็ปฎิเสธ แต่เขาก็ยืนยันว่าเป็นทองจริงเป็นทองแท้ เราก็เลยพิสูจน์โดยการเป่าไฟ แต่ก่อนจะเผาเราก็ชั่งน้ำหนัก ได้น้ำหนัก 1.7 กรัม แล้วก็ทำการเผา ก็ได้ผลอย่างที่เห็นว่าเป็นโลหะ
ตอนนั้นเขาก็มีท่าทางตกใจ แล้วเขาก็บอกว่า ทองเขาเป็นทองแท้นะ เดี๋ยวก็จะกลับมาเป็นสีทองเหมือนเดิม เขาก็บอกให้รอดู เราก็บอกว่ามันไม่กลับมาเป็นสีทองหรอก ถ้าเป็นทองแท้จะไม่เป็นแบบนี้ เลยตั้งใจจะเอาตะขอทองเก่าในร้านมาเผาให้ดู ซึ่งตะขอของร้านเป็นตัว S แต่ของลูกค้าที่เอามาเป็นตัว M แล้วก็เป่าไฟพิสูจน์ให้ดู จังหวะนั้นเขาก็บอกว่าร้านสลับตะขอทองของเขา ตอนที่ตนก้มลงไปเอาตะขอ คือตอนที่เขาไม่เห็น ยืนยันว่าของเขาเป็นตัว M เป็นโลหะหนัก 1.7 กรัม แต่ของร้านเป็นตัว S เป็นทองแท้หนัก 2 กรัม
จากการสอบถามอยู่นาน น.ส.มุก ยังให้การวกไปวนมา ยืนยันว่าเป็นทองแท้ แต่บอกไม่ได้ว่าเอามาจากไหน ซื้อมายังไง ตำรวจซักถามจนมั่นใจว่า น.ส.มุก น่าจะมีอาการทางจิตเวช และทางร้านทองเองก็ไม่ได้เกิดความเสียหาย ไม่ติดใจเอาความ น.ส.มุก ตำรวจจึงทำประวัติเอาไว้ และนำตัว น.ส.มุก ไปทำการรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ก่อนที่จะประสานญาติให้มารับตัวกลับบ้านไปรักษา และให้ญาตินำเอกสารมาติดต่อรับรถจักรยานยนต์อีกครั้ง